กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง (Karenni Nationalities Defense Force: KNDF) เปิดเผยว่า ทหารเมียนมาระดมยิงในหมู่บ้านหนานเหนียนและวัดประจำหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ในรัฐฉานของเมียนมา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11 มีนาคม) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คน
KNDF ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังชาติพันธุ์นับ 10 กลุ่มที่รวมตัวต่อสู้กับรัฐบาลทหาร ระบุว่า หลังจากเปิดฉากถล่มทั้งทางอากาศและปืนใหญ่เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (16.30 น. ตามเวลาไทย) จากนั้นทหารได้บุกเข้ามาในหมู่บ้านและสังหารชาวบ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในวัด นอกจากนี้ KNDF ยังได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นภาพศพอย่างน้อย 21 ศพกองรวมกันอยู่ที่วัด ซึ่ง 3 ศพในจำนวนนี้เป็นพระสงฆ์ในจีวรสีส้ม สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงหลายจุด ขณะที่ผนังวัดเต็มไปด้วยรูกระสุน
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Kantarawaddy Times รายงานอ้างโฆษก KNDF ที่กล่าวว่า “มันเหมือนกับว่าทหารสั่งให้พวกเขายืนเรียงแถวที่หน้าวัด และยิงทุกคนอย่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์”
KNDF ยังเผยกับ BBC ด้วยว่า พบศพอีก 7 ศพบริเวณใกล้เคียงในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ขณะที่อาคารและบ้านเรือนบางส่วนถูกเผาทำลายโดยฝีมือของทหาร พร้อมกับอธิบายว่า หลายคนอพยพออกจากหมู่บ้านก่อนที่ทหารจะมาถึง แต่ชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเชื่อว่าการหลบภัยอยู่กับพระสงฆ์ภายในวัด ซึ่งได้รับความเคารพอย่างสูงในสังคมของเมียนมา จะช่วยคุ้มครองพวกเขาให้ปลอดภัยได้
BBC รายงานว่า ยากที่จะตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่การโจมตีพลเรือนที่ปราศจากอาวุธอย่างป่าเถื่อนไม่ใช่เรื่องใหม่ในเมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่ระหว่างรัฐฉานและรัฐกะยา ซึ่งเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาลทหารบ่อยครั้งขึ้นนับตั้งแต่การรัฐประหาร
KNDF กล่าวกับ BBC ว่า ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกิดเหตุปะทะและการสู้รบเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทหารเมียนมาได้รุกคืบเข้ามาในพื้นที่หนานเหนียนและวัดซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน ทั้งนี้ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่บนเส้นทางหลักจากรัฐฉานไปยังรัฐกะยา ซึ่งรัฐบาลทหารเชื่อว่าเป็นเส้นทางลำเลียงอาวุธให้กองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ นำมาใช้ต่อสู้กับกองทัพเมียนมา
นอกจากนี้ พื้นที่ดังกล่าวยังผสมผสานระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นคู่แข่งกัน ได้แก่ ชาวปะโอ ชาวฉาน (ไทใหญ่) และชาวคะเรนนี (กะเหรี่ยงแดง)
องค์การแห่งชาติปะโอสนับสนุนรัฐบาลทหาร ชาวบ้านรายงานว่ากองทัพเมียนมาให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอ รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่สนับสนุนรัฐบาลทหาร เพื่อท้าทายฝ่ายต่อต้านที่ควบคุมพื้นที่ ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า การโจมตีและการตอบโต้รุนแรงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้นำมาสู่เหตุการณ์สังหารโหดหลายศพเมื่อวันเสาร์
“กลุ่มกะเหรี่ยงแดงยึดหมู่บ้านบางแห่งได้ ดังนั้นทหารเมียนมาจึงระดมยิงหมู่บ้านเหล่านี้” เจ้าหน้าที่ประจำหมู่บ้านกล่าวกับหนังสือพิมพ์ The Irrawaddy
ทั้งนี้ เมียนมาตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองมานานหลายทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นหลังเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อปี 2021 ข้อมูลจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (Assistance Association for Political Prisoners: AAPP) เผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,900 คนจากการปราบปรามผู้ที่เห็นต่างกับรัฐบาลทหาร
ขณะที่องค์การสหประชาชาติระบุว่า ประชาชนกว่า 1.5 ล้านคนในเมียนมากลายเป็นคนพลัดถิ่น บ้าน 40,000 หลังถูกทำลาย เด็ก 8 ล้านคนไม่ได้เรียนหนังสือ และประชาชน 15 ล้านคนขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรง
ภาพ: Bumble Dee via ShutterStock
อ้างอิง:
