ใครที่ติดตามเรื่องราวความเป็นมาของ CHANEL ก็น่าจะรู้กันดีว่าดอกคามิลเลียถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของแบรนด์ โดยเริ่มตั้งแต่ยุค 60 ทางผู้ก่อตั้งแบรนด์ Gabrielle Chanel ได้วาดดอกไม้นี้ขึ้นมาเพื่อจะนำไปใช้ในคอลเล็กชันเสื้อผ้า และขอให้เวิร์กช็อปขนนกอย่าง Maison Lemarié รังสรรค์ขึ้น ซึ่งมาวันนี้ Maison Lemarié ที่อยู่ภายใต้หน่วย Paraffection ของ CHANEL ก็ยังคงทำดอกคามิลเลียที่นำไปติดบนทุกถุงช้อปปิ้งที่คนต่อคิวกันรอเข้าร้านทั่วทุกมุมโลก แถมฝั่งของหมวดสินค้าบิวตี้เอง ดอกคามิลเลียเวอร์ชันสีแดงกลายเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของหลายผลิตภัณฑ์ อาทิ ไลน์สกินแคร์ N°1 DE CHANEL ซึ่งทางแบรนด์มีฟาร์มเพื่อปลูกดอกนี้โดยเฉพาะ ณ เมือง Gaujacq ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส
ล่าสุดทาง Virginie Viard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ด้านเสื้อผ้าของ CHANEL ได้นำดอกคามิลเลียมาใช้อีกครั้งสำหรับคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 แต่คราวนี้เธอเลือกให้มาเป็นนางเอกของคอลเล็กชัน ปรากฏอยู่ในทั้ง 66 ลุค ไม่ว่าจะเป็นโค้ตยาวขาว-ดำผ้าทวีดที่ใช้เปิดโชว์ มีดอกคามิลเลียประดับอยู่บนแจ็กเก็ตทวีดทรงไอคอนิกที่เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งใน Best Seller ประจำซีซัน พรินต์เป็นลายกราฟิกขาว-ดำบนชุดเดรส ทำเป็นกระดุมคริสตัลที่ติดเบลเซอร์ หรือแม้แต่นำไปติดบนรองเท้าบู๊ต ซึ่งทาง Virginie Viard ได้บอกกับทาง WWD ว่าเหตุผลที่เธอเลือกดอกคามิลเลียมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญไม่ใช่เพราะแค่เป็นสัญลักษณ์ประจำของ CHANEL แต่เพราะเป็นดอกไม้ประจำฤดูหนาวที่เข้ากับซีซันนี้
ความโดดเด่นของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2023 ไม่เพียงอยู่ที่ดอกคามิลเลียเท่านั้น แต่ยังคงเป็นเรื่องที่ว่า Virginie Viard เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงผู้หญิงหลากหลายรูปแบบที่เป็นลูกค้าของ CHANEL วันนี้ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำไมในแต่ละคอลเล็กชันเราได้เห็นไอเท็มหลากสไตล์ และทำไมความนิยมของ CHANEL ภายใต้การดีไซน์ของเธอก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย
ภาพ: Getty Images