×

“เพราะความสวยงามคือเรื่องปกติ” คุยกับ พี่หลี ผู้ส่งความสวยถึงสาวๆ ในเรือนจำ

08.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

12 Mins read
  • “ความสวยเป็น KPI ของผู้หญิง ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ผู้หญิงต้องมีสมอง มีความรู้ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวและคนรอบข้าง ที่เขาพูดว่าผู้หญิงต้องสวยจากข้างใน แต่ผู้หญิงต้องมีกายภายนอกที่ดูสวย ดูเข้าถึงได้ด้วย”
  • “ดราม่าไม่ได้แย่เสมอไป มันให้ความสุขเราว่าได้ทำเพราะอะไร มันมีสิ่งอย่างนี้เกิดขึ้นในสังคม ลิปสติกกลายเป็นความห่วงใยที่ส่งผ่านไปถึงคนที่อยู่ในเรือนจำ”
  • “บางคนอยากกลับเข้าไปในเรือนจำ บางคนบอกว่าจ่ายให้ฉันเดือนละ 3,000 บาท เอาไปให้ลูกฉันนะ แล้วขอกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำ บางคนบอกว่าโลกภายนอกไม่มีความจริงใจ โลกภายในเรารักกันมากกว่า”

“โปรเจกต์ลิปสติกเพื่อผู้ต้องขังหญิง ปีนี้จะขยายไปให้ผู้ต้องขังชาย เยียวยาคนข้างใน แม้จะถูกกักขัง แต่ไม่จำเป็นต้องถูกขังความคิด ถูกจำกัดกรอบเรื่องความสวยงาม เพราะวันหนึ่งเขาต้องกลับออกมาสู่โลกความเป็นจริง โลกที่ความสวยงามคือเรื่องปกติ เขาต้องได้ออกมาพร้อมกับได้รับการเยียวยาจิตใจเพื่อไม่ให้อยากหนีสังคมภายนอกแล้ววกกลับเข้าไปอีก สังคมไทยต้องเป็นสังคมที่ให้โอกาสแก่ทุกคน”


หลี-วาทินี ชัยถิรสกุล นักธุรกิจสิ่งทอ แอดมินเพจ SisWalk SisTalk และเจ้าของนามปากกา ‘ลิลลี่ ชัยถิรสกุล’ ในสำนักข่าว THE STANDARD เผยถึงโปรเจกต์ ส่งมอบความสวยให้สาวหลังกำแพง’ ที่เธอร่วมกับกลุ่ม Fairly Tell ซึ่งเป็นกลุ่มทำงานส่งเสริมสิทธินักโทษและอดีตนักโทษ โดยมี กอล์ฟ-ภรณ์ทิพย์ มั่นคง อดีตสาวในเรือนจำ เป็นอีกหนึ่งเรี่ยวแรงสำคัญที่ลุกขึ้นมาผลักดันโปรเจกต์นี้ร่วมกัน


ผู้หญิงหลังกำแพงเรือนจำมีอุปสรรคต่อ ‘ความสวยงาม’ ได้อย่างไร แล้วทำไมต้องรณรงค์เพื่อระดมหาลิปสติกแท่งสวยไปให้พวกเธอ ความสวยงามเป็นเรื่องที่ถูกจำกัดแคบลงเหมือนเสรีภาพในห้องขังหรืออย่างไร ไปหาคำตอบกับ ‘พี่หลี’ ผู้มีเสียงหัวเราะตลอดการสนทนา

 

คนที่อยู่ในนั้นก็ยังต้องการบางสิ่งบางอย่าง ต้องการความสวยความงาม เราเห็นใจเขา แต่เราไม่เคยคิดถึงเขาอย่างจริงจังมาก่อน

 

จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้คืออะไร

โดยแพสชันของพี่ สิบกว่าปีที่ผ่านมามันมีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้นในประเทศเยอะมาก ส่วนหนึ่งคือมันทำลายโอกาสของพี่ในหลายๆ ทาง เราเห็นว่ามีความไม่ยุติธรรมบางอย่าง เราพบว่าคนคิดต่างหลายๆ คนต้องติดคุก ต้องโดนข้อหา ในฐานะคนนอก เราไม่มีโอกาสได้สัมผัสคนพวกนี้หรอก ได้แต่มองไกลๆ มองเห็นคนนั้นคนนี้โดนคดี เรารู้ว่าเรือนจำมันไม่ใช่ที่สำหรับคนที่ทำผิดเสมอไป อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นเลยว่าเราเห็นความไม่ชอบธรรมเกิดขึ้น แล้วเราเป็นโรคที่พอเห็นอะไรไม่ถูกต้องแล้วเรารับไม่ได้ แต่เราเป็นคนเล็กๆ คนหนึ่งที่ทำอะไรไม่ได้


ทีนี้ปีที่แล้วเดินอยู่ในงานสัปดาห์หนังสือ น้องคนหนึ่งมาทักเรา ก็คือกอล์ฟ ซึ่งเขาต้องคดีจากการคิดต่าง เขาก็บอกว่าตามเพจพี่หลีอยู่ SisWalk SisTalk ขอที่เขียนคิ้วหน่อยสิ เราก็นึกว่าจะขออันสองอันไว้ใช้เอง เพราะเขาเป็นคนไม่มีคิ้ว เราก็บอกว่าเดี๋ยวให้ เขาก็บอกขอ 10 อัน เอ่อ…อีนี่ ขอเยอะจัง เราก็ถามว่าเอาไปทำไม เขาก็บอกว่าจะเอาไปให้เพื่อนที่อยู่ในเรือนจำ เราก็เลยรู้สึกตรงนี้ว่าคนที่อยู่ในนั้นก็ยังต้องการบางสิ่งบางอย่าง ต้องการความสวยความงาม เราเห็นใจเขา แต่เราไม่เคยคิดถึงเขาอย่างจริงจังมาก่อน


ก็ถามต่อว่าเอาลิปสติกแทนดีไหม กอล์ฟก็บอกว่าเอา เราก็บอกว่าใช้เพจพี่ระดมบริจาคลิปสติกไหม เราก็ไม่คิดว่าจะได้เยอะหรอก คิดว่าได้สักร้อยแท่งก็ยังดี แล้วค่อยเอามาหลอมทำเป็นตลับเล็กๆ แจกกันสักสิบหรือสักร้อยคน เขาก็บอกว่าได้ แต่ต้องไปขออนุญาตเรือนจำก่อน


กอล์ฟไปถามที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ไปหาเจ้าหน้าที่ซึ่งก็รู้จักอยู่แล้ว เพราะเขาอยู่ในนั้นมา 2 ปีกว่า ซึ่งเขาก็อนุญาต แต่มีเงื่อนไขว่าตลับต้องใสทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีการสอดแทรกยาเสพติดเข้าไป


หลังจากเปิดรับบริจาคแล้วพี่เซอร์ไพรส์มาก พอโพสต์ลงเพจของพี่ซึ่งตอนนั้นมีคนฟอลโลว์อยู่หมื่นกว่าคน คืนเดียวคนแชร์ไป 2,000 กว่าครั้ง คนสนใจเยอะมาก แล้วพี่ได้กล่องเป็นพันๆ ใบ ลิปสติกเป็นหมื่นๆ แท่ง คือคนมีน้ำใจเยอะ แต่เราก็ได้รับดราม่ามานะว่าจะให้เขาทำไม อยู่ในเรือนจำต้องใช้อะไร เขารับโทษอยู่ จะไปช่วยเขาทำไม เราก็ทำความเข้าใจว่าการรับโทษของการกระทำความผิดคือการ ‘กักบริเวณ’ แต่ไม่ได้กักความงาม ไม่ได้กักมันสมอง ไม่ได้กักอารมณ์ ไม่ได้กักความคิด

 

 

ทำมากี่ปีแล้ว

เริ่มปีที่แล้ว แต่ปีนี้จะเปิดรับเดือนพฤษภาคม และจะรับอย่างอื่นเพิ่มด้วย เพราะพอเรานำไปบริจาคที่ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา กรุงเทพฯ เราพบว่าเขาขอมากกว่าลิปสติก สิ่งที่ขาดจริงๆ คือแปรงสีฟันไม่พอ แปรงสีฟันอันละ 5 บาทแปรงแล้วเหงือกจะหลุด แล้วที่ขาดอีกคือสบู่ แชมพู ยาสีฟัน โดยเฉพาะในแดนที่คนเพิ่งเข้าไปโดยที่ญาติยังไม่ได้เตรียมอะไรมาให้


โดยนโยบายของพี่หลีคือเราไม่ชอบขอเงินคน แต่เราจะขอเป็นสิ่งของเหลือใช้ เลยมาดูว่ามันมีพวกของใช้ในโรงแรมที่เป็นสบู่ก้อนเล็กๆ หรือว่าแชมพูกระปุกเล็กๆ ที่เขาจะให้กัน อันนั้นเราได้ทุกวันนะ ถ้าคุณใช้แล้ว วันรุ่งขึ้นเขาจะเอาของใหม่มาวางให้ ถ้าคุณพัก 3 วัน คุณจะได้ 3 ชุด โดยประสบการณ์คือพี่หลีงก พี่หลีเก็บกลับทุกวัน (หัวเราะ) เราพบว่าของพวกนี้เอาไปให้นักโทษได้หมดเลย ยกเว้นมีดโกนหนวด เพราะจะเป็นอาวุธ

 

การเข้าไปติดต่อเรือนจำได้รับการตอบรับอย่างไรบ้าง

เราไม่อยากเล่า เพราะไม่อยากเป็นดราม่า แต่พูดตรงๆ ว่าเราเจอเยอะมาก บางทัณฑสถานไม่ให้เข้า บางทัณฑสถานบอกว่าไม่ให้ผู้หญิงของฉันแต่งหน้า ไม่ต้องมาบริจาค เราก็ไม่อยากเอ่ย ที่ประหลาดใจคือผู้อำนวยการที่เป็นผู้ชายเขาให้ แต่ผู้อำนวยการที่เป็นผู้หญิงเนี่ยกลับไม่ให้ พูดตรงๆ คือผู้อำนวยการที่เป็นผู้ชายอนุญาตให้ผู้หญิงในเรือนจำสวยได้ แต่ผู้อำนวยการที่เป็นผู้หญิงกลับไม่อนุญาตให้ผู้หญิงแต่งหน้า

 

 

ในความรู้สึกคุณคือผู้หญิงน่าจะเข้าใจผู้หญิง

ใช่ แต่กลับกัน เจ็บปวดมาก แต่เราก็ไม่สามารถดราม่าได้ เราต้องนิ่ง เพราะว่าเราต้องขอความร่วมมือเขา เราก็อยากจะเจาะเข้าไปให้ได้ ก็พยายามอยู่ พอไม่ให้ เจาะไม่ได้ ก็เอาไว้ก่อน แต่ปีนี้พิเศษหน่อยคือเราแจกไปที่เรือนจำชายด้วย โดยเฉพาะคนที่เป็นสาวๆ


กลายเป็นว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่นโยบายส่วนกลาง คือไม่มีกฎบังคับเรื่องนี้ คุณสวยได้ อย่างถ้าเรือนจำหญิงกลางมีการแสดง มีละครคลายเครียดให้นักโทษ เขาก็ต้องแต่งหน้า เครื่องสำอางชุดแรกที่เอาไปเขาก็ไปไว้ที่โรงเรียนการแสดงก่อนเลย บางชุดเอาไว้ให้กับสาวๆ กลุ่มที่เรียนการอาชีพแต่งหน้า สาวๆ กลุ่มแรกที่เอาไปให้คือคนที่ไม่มีญาติ


แต่ที่น่าสนใจที่คุยกับกอล์ฟแล้วก็สาวๆ ที่อยู่ในกลุ่ม Fairly Tell คือก่อนหน้าที่เราจะทำโปรเจกต์ส่งความสวยให้สาวหลังกำแพง คือมันมีเรื่องตลาดมืดในเรือนจำ ถ้าคุณอยู่ในเรือนจำแล้วอยากได้ลิปสติก คุณต้องไปขอให้คนซื้อมาให้ ถ้าข้างนอกขาย 69 บาท เราอาจจะซื้อในราคาแท่งละ 300 บาท หายากมาก กอล์ฟมันไม่มีปัญญาซื้อ มันก็ใช้วิธีหาวาสลีนผสมกับสีผสมอาหารมาทำเป็นลิปสติกทาเอง


การมีลิปสติกของเราเข้าไปในเรือนจำมันทำลายตลาดมืด ผู้อำนวยการที่รับจากเราเข้าไปเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ที่ขึ้นชื่อด้านการพัฒนา พอรู้ตรงนี้ปุ๊บ ผู้อำนวยการก็สั่งให้ร้านค้าในนั้นขายลิปสติกทันที แต่ผู้อำนวยการคนนี้เป็นผู้หญิงนะ เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เราคุยแล้วเขาให้ เราไปทำลายปัญหาบางอย่างให้ ทุนนิยมทำลายตลาดมืดได้ อันนี้เราชอบมาก

     

 

ที่บอกว่าต้องหลอมใส่ตลับใสเอาไปแจก ทำอย่างไร

เราใช้วิธีหลอมเหลว ผ่านความร้อน ฆ่าเชื้อโรคในระดับหนึ่ง ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางชนิดเดียวซึ่งถ้าหืนแล้วมันจะมีกลิ่น พอมีกลิ่นเราก็ไม่เอาไป แต่จริงๆ แล้วเราเคยถามนักวิทยาศาสตร์ เขาบอกว่าถ้ามีกลิ่นก็ไม่เป็นไร เพราะมันคือกลิ่นของพวกน้ำหอม แต่เชื้อโรคบางตัวมันฆ่าไม่หมดนะ พี่ก็ถามกอล์ฟ เขาบอกว่านักโทษในนั้นคิดว่ามันเป็นความขาดแคลน ทำให้เขาไม่แคร์

 

ที่บอกว่าจะขยายเพิ่มเติมไปยังชายหนุ่มในเรือนจำที่อยากสวยอยากงาม มันจะยากขึ้นไหม

ก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะความคิดสังคมไทยเขาดันมองสาวๆ แบบนี้เป็นของตลกเฮฮา ความบันเทิง ทำให้การเอาของเข้าไปในเรือนจำกลับไม่ยาก แต่ก็นะ มันก็หดหู่สำหรับวิธีมองเหมือนกัน

 

ไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายที่อยู่ในเรือนจำมีการอนุญาตให้แต่งหน้าทาปากได้

คือพูดตามตรงว่าในนั้นก็มีกิจกรรมผ่อนคลาย การที่เขาต้องอยู่ในห้องขังห้องหนึ่งร่วมกันเป็นร้อยๆ คนมันเป็นความเครียด ทำให้เขาต้องมีกิจกรรมผ่อนคลายให้นักโทษ ต้องมีกิจกรรมการแสดง ลิปสติกและเครื่องสำอางจึงเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงพวกนี้ ดังนั้นฝั่งชายก็ใช้เช่นกัน สาวๆ ในเรือนจำฝั่งชายเขาก็ได้ใช้เครื่องสำอางเหล่านี้เวลาขึ้นเวทีหรือแต่งหน้าประจำวันด้วย

 

     

มีเป้าหมายในระยะยาวที่อยากจะทำเรื่องนี้ขนาดไหน

ปีที่แล้วทำร่วมกันกับ Fairly Tell และ SisWalk SisTalk แต่ปีนี้เหลือ SisWalk SisTalk เจ้าเดียว


ถ้าถามว่าจะทำยาวนานแค่ไหน กะจะทำแค่ 5 ปีเท่านั้น พอเราเริ่มทำ เราถอดบทเรียนมานั่งทำความเข้าใจเองว่าเราทำเป็นแผนงานยาวไหม ไม่ใช่ เราตั้งใจทำให้คนได้เข้าใจในเรื่องสิทธิความเป็นมนุษย์ การให้สิทธิความเป็นมนุษย์อย่างนี้มันสอนได้เร็ว เข้าใจง่าย ถ้าเขาเข้าใจว่าเขามีสิทธิความเป็นมนุษย์ อยู่ในคุกก็มีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์สวย คนพวกนี้ก็จะเข้าใจโลกภายนอกมากขึ้น

 

ความสวยเป็นเรื่องธรรมชาติ

ความสวยเป็น KPI ของผู้หญิง ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ผู้หญิงต้องมีสมอง มีความรู้ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว คนรอบข้างที่เขาพูดว่าผู้หญิงต้องสวยจากข้างใน แต่ผู้หญิงต้องมีกายภายนอกที่ดูสวย ดูเข้าถึงได้ด้วย เพราะโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลง คุณต้องมีตรงนี้

 

 

 

ก่อนที่ผู้ต้องขังจะถูกเอาไปกักตัวไว้ เขาสวยมาตั้งแต่ข้างนอก?

การเข้าไปอยู่ข้างในนั้นมันทุกข์ทรมานสำหรับเขา ถ้าไปเรือนจำจะรู้ว่า 5,000 คนอยู่ในนั้นอัดกัน มันมีความเก็บกด เขาเรียกว่าหลอน พอหลอนปุ๊บ เขาบอกเลยว่าลิปสติกช่วยเขาได้ พอตื่นมา ขอแต่งหน้าหน่อยสิ ตั้งต้นว่าวันนี้ฉันดูสวย ฉันก็มีความสุขขึ้น เรายังมีคนข้างในที่รู้จักกัน เขาก็บอกว่ามันช่วยเขาได้จริงในเรื่องของจิตใจ


ถ้าเขารู้ว่าคนภายนอกยังคิดถึงเขา แล้วเขายังมีความสุขกับการอยู่ในนั้น เขาก็จะทนจนกว่าจะได้ออกมา พอเขารู้ว่าสังคมยังไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์เขา เขาก็จะไม่ต้องทำผิดเพื่อกลับเข้าไปอีก เพราะว่าคนที่กลับมาจากเรือนจำหลายๆ คนต้องไปหาจิตแพทย์ นี่คือเหตุผลของกลุ่ม Fairly Tell ที่เขาบอกว่าจะไม่ทำลิปสติก เพราะว่าจะเน้นทางด้านการรีทรีตคนที่ออกมาจากเรือนจำ เพราะคนพวกนี้ผิดปกติทางจิต เช่น อยากฆ่าตัวตาย บางคนอยากกลับเข้าไปในเรือนจำ บางคนบอกว่าจ่ายให้ฉันเดือนละ 3,000 เอาไปให้ลูกฉันนะ แล้วขอกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เพราะฉันอยู่ได้ บางคนบอกว่าโลกภายนอกไม่มีความจริงใจ โลกภายในเรารักกันมากกว่า

 

 

      

นอกจากตั้งใจหยิบยื่นความสวยความ กลับได้ฟีดแบ็กเรื่องอื่นๆ กลับมาด้วย   

เราไม่ได้เห็นภาพคนเดียว เราเอามาเขียนมาแจกแจงลงในเพจ ก็มีคนเข้าใจมากขึ้น พี่ว่ามันเพอร์เฟกต์ เราต้องใช้โซเชียลให้มีคุณภาพ

 

โลกความสวยงามบนเรือนร่างกับโลกจริงที่ดูสวยงามต่างกัน

มันแล้วแต่ประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอมา บางคนเจอแต่สิ่งร้ายๆ ในชีวิต บางคนก็เกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายจริงๆ พ่อแม่จริงๆ แล้วจะทำแท้ง อย่างพี่นี่จริงๆ แม่จะฆ่าทิ้งด้วยซ้ำ มันเหมือนกับบางคนไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองจากความแค้นได้ บางคนปล่อยวางเป็น บางคนไม่เป็น เพราะฉะนั้นอะไรที่พอจะเยียวยาแต่ละคนได้บ้าง มันก็มีเรื่องความสวยเข้ามาช่วย พอเขาสวย เขาก็เป็นที่สนใจ พอเป็นที่สนใจ เขาก็จะยิ้มแย้มให้กับคนที่สนใจเขา แล้วมันก็จะผ่อนคลาย พอมีรอยยิ้ม กอล์ฟสอนพี่เยอะ สอนว่าข้างในมันคืออะไร

 

หลังออกจากเรือนจำ คุณคิดว่าสังคมยังต้องช่วยเขาต่ออย่างไรบ้าง

สังคมยังต้องช่วยเขามาก มันควรต้องมีองค์กรที่เยียวยาเขาหลังออกจากเรือนจำ มันควรมีวิธีการที่ให้เขาหลุดจากประวัติอาชญากรรม ถ้าเขาโดนคดีเบาบาง มันไม่ควรจะมีคดีติดตัว เพราะไปหางานทำได้ยาก


ที่ต้องปลดล็อกคือจิตใจของคนทั่วไปต่างหากที่จะต้องปลดให้ได้ว่าคนผ่านคุกมา ไม่ใช่คนเลวทุกคนนะ บางทีเขาอาจจะยิงคนเพราะต้องป้องกันตัว บางคนเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจไปทำ หรือบางคนรับโทษแทนคนอื่น บางคนรับโทษแทนผัวเพื่อให้ผัวอยู่ต่อเลี้ยงลูกข้างนอก ออกมาก็หางานไม่ได้


อย่างที่พี่รู้จักคนหนึ่ง ก่อนเขาเข้าคุกไปเขาได้เงินเดือน 70,000 บาทในฐานะเลขาฯ แล้วเขาโดนคดีการเมือง พอเขาออกมา เขาหางานทำที่ไหนไม่ได้เลย ตอนนี้เขาก็ต้องหาเงินเพื่อฝึกตัวเองให้เป็นอาจารย์โยคะให้ได้ ต้องไปหาอาชีพที่ไม่ต้องใช้ใบประกาศ

 

 

ในฐานะที่คุณเคยเป็น HR มา ทำไมคนที่เป็นนายจ้างหรือองค์กรมักจะต้องตัดสินไปก่อนว่าคนที่ได้รับโทษมาจะต้องมีพฤติกรรมไม่ดี

ส่วนหนึ่งที่เราค้นพบนักโทษที่ออกจากเรือนจำหลายคนมีจิตใจที่มืดมนขึ้น มีความรู้สึกของความไม่ปกติทางจิตขึ้น คือเรารู้เลยว่าเขาไม่สามารถเข้ากับคนได้ แล้วตอนนั้นเราเป็น HR ฝ่ายบริการในโรงแรม มันรู้เลยว่าคนที่เคยทำผิดมาไม่สามารถอยู่ร่วมสังคมอื่นได้เลยนะ เขาต้องได้รับการปรับอะไรเยอะแยะ ถ้าไปคุยจริงๆ เขาควรจะมีแพทย์เยียวยา พูดตรงๆ คือต้องกรอง ก่อนคุณจะออกไปได้ต้องพบจิตแพทย์เพื่อเยียวยาก่อน


พี่ว่ารัฐบาลน่าจะช่วยเหลือตรงนี้เพื่อที่จะให้คนที่ออกมากลับมาเป็นคนปกติในสังคม หรือเขาอาจจะทำความดีคืนสังคมได้ คือโดยความเป็นนายจ้างมันต้องระวังพวกนี้ก่อนอยู่แล้ว ถ้าเลือกได้ เราก็จะไม่เลือกเขา มันเป็นธรรมดาของคนที่ถ้าเคยทำผิด เราต้องระวังไว้ก่อน เหมือนคนมีแฟน ถ้าเขาเคยนอกใจเรา เราก็จะระแวง เราจะโทษคนพวกนี้ไม่ได้ เราต้องมาปรับ

 

ในมิติความรู้สึก โครงสร้างใหญ่ที่ควรจะรื้อเกี่ยวกับเรื่องเรือนจำคืออะไรบ้าง

ควรจะรื้อทั้งราชทัณฑ์ เพราะพี่รู้มาว่าราชทัณฑ์มีงบประมาณถึง 8,000 ล้านบาท ตอนแรกๆ พี่ก็คิดว่าเขาขาดแคลน คนในเรือนจำขาดแคลน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เขาเป็นเหมือนเจ้าขุนมูลนาย ฉันมาคุมที่นี่ ฉันเป็นใหญ่ ฉันก็ใช้ความคิดของฉัน คือมันไม่มีนโยบาย อย่างเรื่องเครื่องสำอางเนี่ย พอใช้ดุลพินิจส่วนตัวมันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วแต่บุคคล


เพราะฉะนั้นบางคนก็ใช้ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ แก้ตรงนโยบาย เราแก้อะไรไม่ได้ ทางเดียวที่เราทำได้คือเราต้องเป็นนักการเมือง ไปเสนอนโยบายพรรคการเมืองใหม่ๆ พรรคการเมืองสนใจไหมล่ะ

 

 

ถ้ามีคนอยากเอาโครงการไปทำต่อ คุณมองอย่างไร

ทุกวันนี้ก็มีคนหลังไมค์มา พี่ขอเอาไปทำได้ไหม บางคนอยู่ในโรงละครบอกว่า พี่ หนูกำลังรวบรวม หนูควรเอามาให้พี่หรือไปทำกันเอง ก็บอกไปว่าหนูทำไปเลย พี่ไม่หวงโปรเจกต์ หรือแม้กระทั่ง Eveandboy ก็ไปทำของเขา ซื้อหนึ่งแล้วอีกหนึ่งจะเอาไปให้ในเรือนจำ ของแบบนี้หวงไม่ได้ มันเป็นแค่ความคิดในการทำงาน ใครจะไปทำพี่ไม่ว่า ทำแทนยังได้เลย  

 

ความสุขที่เราได้จากเรื่องนี้คืออะไร

ความสุขคือช่วงดราม่า เพราะมันทำให้เราได้อธิบาย ดราม่าไม่ได้แย่เสมอไป มันให้ความสุขเราว่าได้ทำเพราะอะไร มันมีสิ่งอย่างนี้เกิดขึ้นในสังคมนะ

 

ปริมาณลิปสติกที่บริจาคเข้ามาสะท้อนอะไรไหม

เห็นปริมาณลิปสติกแล้วช็อก แล้วไม่ได้มาจากแค่คนที่คิดเห็นเรื่องการเมืองเหมือนกันด้วย เพราะมันเป็นเพจปกติ มันเป็นเพจที่ไม่ใช่เพจสีเสื้อใดๆ เป็นเพจกลาง บางคนก็มองว่านี่คือการทำบุญ มองว่าได้โละของเหลือทิ้ง แม้กระทั่งว่าเคยทำกิจการลิปสติก แต่เลิกแล้ว ไม่รู้จะเอาไปให้ใคร เอาให้คุณละกัน ก็ได้มาอีก 400-500 แท่ง


มันมากกว่าเราหยิบยื่นความสวยงามให้ คนในเรือนจำอาจไม่ได้รู้ว่ามากน้อยเท่าไร ทำให้ได้เห็นภาพของสังคมว่าคนที่มีจิตใจในเรื่องนี้ก็เห็นสังคม เขาก็รู้ด้วยว่าเอาไปให้นักโทษ

 

 

ที่ไปเห็นมา คิดว่าทำไมมีคนวิ่งเข้าวิ่งออกเรือนจำทุกวันในปริมาณที่เพิ่มขึ้น

บางทีมันทำให้รู้ว่าสังคมไทยมันถอยหลังขนาดนี้ ไม่มีอนาคตให้คนพวกนี้ มันเท่ากับไม่มีอนาคตให้คนรุ่นใหม่ ให้คนหลายๆ คนด้วยหรือเปล่า สังคมไทยมันผิดปกติ เป็นสังคมที่เสื่อมในบางสิ่งที่เราเห็นได้ชัด


แล้วที่สำคัญที่สุด กระบวนการยุติธรรมมันต้องรื้อกันใหม่ไหม ทำไมมันถึงทำให้มีการติดคุกมากขนาดนี้ เราก็เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมตั้งแต่เริ่มต้น การจับกุมมันมีความผิดปกติมาตลอดในหลายคดีที่เป็นคดีดัง มันทำให้คนอย่างเราเริ่มสงสัย แล้วคดีเล็กๆ ล่ะ คดีแพะล่ะ อย่างคดีเชอรี่ แอน เราก็มานั่งเอะใจว่าเราจะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมไทยได้เมื่อไร แล้วต่อจากนี้เราไว้ใจใครได้ไหม


สังคมไทยมันผิดปกติ คนผิดกลับไม่ผิด คนไม่ผิดกลับผิด พวกนี้เป็นแพะ คนนี้รับจ้างติดคุก เรากลัว คนสามัญชนอย่างเรารู้สึกกลัวว่าแล้วเราจะโดนอะไรไหม

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising