IMF ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ 9 ประการ เพื่อเป็นแนวการดำเนินนโยบายสินทรัพย์ประเภท ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ให้แก่ประเทศต่างๆ โดยข้อแนะนำประการแรกคือ ไม่ควรให้สถานะ ‘เงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย’ (Legal Tender) แก่คริปโตอย่างเช่น Bitcoin
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า คณะกรรมการบริหารได้หารือเกี่ยวกับเอกสาร ‘องค์ประกอบของนโยบายที่มีประสิทธิภาพสำหรับสินทรัพย์ประเภทคริปโต’ โดยได้ให้คำแนะนำแก่ประเทศสมาชิก IMF เกี่ยวกับการตอบสนองเชิงนโยบายที่เหมาะสมต่อสินทรัพย์ประเภทดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้นำ IMF เตือนปี 2023 เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับ ‘ความยากลำบาก’ มากขึ้น
- IMF เตือนการแยกส่วนของเศรษฐกิจโลก อาจสร้างความเสียหายมากถึง 7% ของ GDP โลก
- คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้นำ IMF ชี้ การเปิดประเทศของจีนจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
IMF ยังกล่าวในเอกสารอีกว่า ความพยายามนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ หลังจากการล่มสลายของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนและสินทรัพย์คริปโตจำนวนมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
โดยคำแนะนำอันดับแรกคือ ‘การปกป้องอธิปไตยทางการเงินและเสถียรภาพ โดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบนโยบายการเงิน และอย่าให้สินทรัพย์คริปโตเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ (Official Currency) หรือเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Legal Tender)
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2021 กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้วิจารณ์เอลซัลวาดอร์ที่ประกาศยอมรับ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเป็นประเทศแรกของโลก โดยหลังจากนั้นสาธารณรัฐแอฟริกากลางก็ดำเนินการตาม
สำหรับคำแนะนำอื่นๆ รวมไปถึงข้อที่ระบุว่า ประเทศต่างๆ ควรจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎระเบียบ รวมถึงการกำหนดวิธีการตรวจสอบผลกระทบของคริปโตต่อเสถียรภาพของระบบการเงินทั่วโลกด้วย
โดยสรุปแล้วการประเมินของคณะกรรมการบริหาร IMF กล่าวว่า กรรมการเห็นด้วยกับข้อเสนอและเห็นพ้องว่าการนำสินทรัพย์คริปโตมาใช้อย่างแพร่หลาย ‘อาจบ่อนทำลายประสิทธิภาพของนโยบายการเงิน’ และเป็นการหลบเลี่ยงมาตรการจัดการกระแสเงินทุน (Capital Flow) ต่างๆ รวมทั้งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงทางการคลังรุนแรงขึ้น
แผนปฏิบัติการสำหรับคริปโต 9 ประการ
- ปกป้องอธิปไตยและเสถียรภาพทางการเงิน ผ่านการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบนโยบายการเงิน และไม่ให้สินทรัพย์คริปโตเป็นสกุลเงินอย่างเป็นทางการ หรือชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
- ป้องกันความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มากเกินไป และรักษาประสิทธิภาพของมาตรการจัดการเงินทุนเคลื่อนย้าย
- วิเคราะห์และเปิดเผยความเสี่ยงทางการคลัง และใช้ปฏิบัติทางภาษีที่ไม่คลุมเครือต่อสินทรัพย์คริปโต
- สร้างความมั่นคงแน่นอนทางกฎหมาย (Legal Certainty) สำหรับสินทรัพย์คริปโต และจัดการกับความเสี่ยงทางกฎหมาย
- พัฒนาและบังคับใช้การกำกับดูแลที่รอบคอบสำหรับผู้มีบทบาทในตลาดคริปโตทั้งหมด
- กำหนดกรอบการติดตามร่วมกันระหว่างหน่วยงานในประเทศต่างๆ
- จัดทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโต
- ติดตามผลกระทบของสินทรัพย์คริปโตต่อเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศ
- เสริมสร้างความร่วมมือระดับโลก เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและโซลูชันทางเลือกสำหรับการชำระเงินและการเงินข้ามพรมแดน
อ้างอิง: