การประชุมรับฟังความคิดเห็นซึ่งจัดขึ้นเพื่อคลายความกังวลของชาวเมืองอีสต์ปาเลสไตน์ในรัฐโอไฮโอ เกี่ยวกับสารเคมีเป็นพิษที่รั่วไหลจากขบวนรถไฟตกราง กลับยิ่งเพิ่มความโกรธเคืองให้กับชาวเมือง เมื่อตัวแทนของบริษัทรถไฟที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ไม่ปรากฏตัว โดยอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัย หวั่นถูกชาวเมืองที่กำลังไม่พอใจทำร้ายร่างกาย
ขบวนรถไฟของบริษัท นอร์โฟล์ค เซาเทิร์น (Norfolk Southern) ประสบเหตุตกรางในรัฐโอไฮโอ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งขบวนรถไฟดังกล่าวบรรทุกสารเคมีอันตรายอย่างสารไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) ส่งผลให้ชาวเมืองหวาดกลัวว่าสารพิษที่รั่วไหลจากตู้รถไฟอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ แม้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพอากาศพยายามสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าสภาพอากาศของเมืองไม่ได้อยู่ในระดับที่เป็นอันตราย แต่กลุ่มควันดำหนาทึบที่ปกคลุมทั่วเมืองทำให้ชาวบ้านยังคงไม่สบายใจ ประกอบกับหลายคนมีอาการปวดศีรษะและคลื่นไส้ นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่าปลาในลำห้วยลอยตายหลายพันตัว ส่วนไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้อยู่ดีๆ ก็ล้มตาย ขณะที่สัตว์เลี้ยงอื่นๆ มีอาการป่วย
รายงานข่าวระบุว่า การประชุมรับฟังความคิดเห็นจัดขึ้นที่โรงยิมของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองอีสต์ปาเลสไตน์ อย่างไรก็ดี ก่อนการประชุมเริ่มต้นขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง บริษัท นอร์โฟล์ค เซาเทิร์น ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทจะไม่ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุม เนื่องจากกังวลว่าพนักงานอาจถูกทำร้ายร่างกาย
คริส วอลเลซ ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองนี้มาตั้งแต่เกิด กล่าวกับนักข่าวว่า “พวกเขาควรอยู่ที่นี่เพื่อตอบคำถาม พวกเขามีเรื่องปิดบังมากมาย พวกเขาไม่ต้องการให้เรารู้อะไร พวกเขาวางระเบิดเรา”
ทั้งนี้ การประชุมยังคงดำเนินต่อไปแม้ไม่มีผู้แทนจากบริษัทรถไฟเข้าร่วม รายงานข่าวระบุว่า ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมกันอย่างเนืองแน่นต่างกระหน่ำยิงคำถามใส่เจ้าหน้าที่ของทางการ รวมถึง บิล จอห์นสัน ส.ส. รัฐโอไฮโอ จากพรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศและน้ำ จนบางครั้งมีการใช้ถ้อยคำและท่าทีที่หยาบคาย จนเจ้าหน้าที่ต้องขอร้องให้ผู้ร่วมประชุมแสดงความเห็นกันอย่างสุภาพ
เทรนต์ คอนอะเวย์ นายกเทศมนตรีเมืองอีสต์ปาเลสไตน์ กล่าวกับผู้ที่เข้าร่วมประชุมว่า “เราทุกคนในที่นี้ต่างโตๆ กันแล้ว”
“ผมเองก็ผิดหวัง ผมอาศัยอยู่ในชุมชนนี้เช่นเดียวกันกับพวกคุณ” คอนอะเวย์กล่าวด้วยความอ่อนล้าที่ปรากฏชัด “ผมกำลังพยายามหาคำตอบ”
หลายครอบครัวพยายามทำเรื่องขอตรวจสอบคุณภาพน้ำ แต่กลับประสบความยากลำบาก ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เชื่อใจทางการ และมองว่าการรับมือต่อเหตุการณ์ดังกล่าวของทางการนั้นไม่มีประสิทธิภาพและไม่เพียงพอ อีกทั้งคำแนะนำด้านสุขภาพก็ยังคงขัดแย้งและสับสน
“พวกเขาพร่ำบอกเราว่าดื่มน้ำประปาได้ แต่ในขณะเดียวกันก็บอกให้เราดื่มน้ำขวด นั่นไม่ใช่คำตอบ นั่นคือความย้อนแย้งที่ทุกคนมองเห็นได้” สกอตต์ แมคเลียร์ ชาวบ้านคนหนึ่งบอกกับ BBC
สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแถลงเมื่อต้นสัปดาห์หลังจากตรวจสอบคุณภาพอากาศของเมืองว่าไม่พบสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบอากาศภายในบ้านหลายร้อยหลัง ซึ่งก็ไม่พบสารเคมีใดๆ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการประชุมยอมรับว่าสารพิษที่รั่วไหลจากขบวนรถไฟตกรางนั้นเป็นอันตรายต่อสัตว์ โดยเฉพาะปลา แต่ บรูซ แวนเดอร์ฮอฟฟ์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐโอไฮโอ บอกกับชาวเมืองหลายร้อยคนที่มารวมตัวกันว่า ความเข้มข้นของสารพิษในอากาศและแหล่งน้ำนั้นต่ำกว่ามากจากระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ก่อนที่จะโดนย้อนถามว่า
“ทำไมคนถึงป่วยถ้าไม่มีอะไรในอากาศหรือในน้ำ” ผู้หญิงคนหนึ่งถามคำถามมาจากอัฒจันทร์ เรียกเสียงปรบมือไปทั่วโรงยิม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ไมเคิล รีแกน หัวหน้าสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่อีสต์ปาเลสไตน์เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และประเมินการตอบสนองต่อเหตุรถไฟตกราง
EPA ระบุในแถลงการณ์ว่า รีแกนจะหารือเกี่ยวกับการตรวจสอบคุณภาพอากาศและการทำงานของ EPA เพื่อรับรองสุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน
แต่สำหรับชาวเมืองบางคน การมาเยือนของรีแกนนั้นสายเกินไปเสียแล้ว
ภาพ: Rebecca Kiger for The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง: