ในปี 2022 รองเท้า Air Jordan สร้างประวัติศาสตร์ทำรายได้สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ (ราวๆ 1.68 แสนล้านบาท) เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ Michael Jordan เซ็นสัญญากับ Nike เมื่อปี 1984 คาดกันว่าเขาได้รับเงินส่วนแบ่งไม่น้อยกว่า 150 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 5 พันล้านบาท) หรือมากกว่า 2 เท่าของรายได้จากการเล่นใน NBA เฉพาะในปีนี้เพียงปีเดียว
ในช่วงแรก Michael Jordan เคยได้รับข้อเสนอเป็นเงิน 500,000 ดอลลาร์ต่อปี แต่ด้วยความสำเร็จของรองเท้า Air Jordan เขาจึงทำข้อตกลงแบ่งรายได้จากยอดขายจาก Nike แทน คาดกันว่ารองเท้า Jordan สร้างยอดขายให้ Nike รวมกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 6.23 แสนล้านบาท) ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และในปี 2020 มีรายงานว่า Michael Jordan ทำเงินได้มากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ (ราวๆ 4.35 หมื่นล้านบาท) จากข้อตกลงกับ Nike ในช่วงชีวิตของเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- New Balance จาก Daddy Shoes สู่รองเท้าผ้าใบขวัญใจคนรุ่นใหม่
- ราคา adidas Yeezy เป็นอย่างไร หลัง adidas ประกาศตัดความสัมพันธ์ คานเย่ เวสต์ (Kanye West)
- กูรูแนะ Nike เร่งระบายสินค้าคงคลังครั้งใหญ่ แต่ไม่ควร ‘หั่นราคา’ หวั่นไม่สามารถกลับไปขายราคาเต็มได้อีก
ถ้าพูดถึงรองเท้ายอดนิยมของ Jordan คงหนีไม่พ้น Air Jordan 1 ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการรองเท้าผ้าใบและสร้างวัฒนธรรมสนีกเกอร์เฮดในปัจจุบัน โดยมีการนำกลับมาทำใหม่และดีไซน์ร่วมกับศิลปินและดีไซเนอร์หลายคน ไม่ว่าจะเป็น Travis Scott, J Balvin และ Christian Dior
นอกจากนี้ Jordan 1 ยังมีมูลค่าการขายต่อที่สูง ปัจจุบัน Air Jordan 1 ที่แพงที่สุดในตลาดขายต่อคือ Nike Air Jordan 1 ‘Legends of Summer Black’ มูลค่า 6,400 ดอลลาร์ (ราวๆ 214,000 บาท) และในเดือนตุลาคม 2021 Air Jordan 1 ที่ Jordan สวมใส่เองพร้อมลายเซ็นก็ได้รับการประมูลไปในราคา 1.472 ล้านดอลลาร์ (ราวๆ 49.3 ล้านบาท)
จากความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ Nike ผลิตโมเดล Air Jordan ใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่ซูเปอร์สตาร์บาสเกตบอลเกษียณตัวเองในปี 2003 หนึ่งในนั้นคือรองเท้าสนีกเกอร์ดีไซน์คลาสสิกในรุ่นที่มีความสำคัญ และถูกเรียกว่า ‘Retro’ ซึ่งเกือบเหมือนกับรุ่นดั้งเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเรื่องวัสดุและรายละเอียดบางอย่าง Jordan Retro บางรุ่นเป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสมรองเท้าผ้าใบ และมักจะทำราคาได้สูงในตลาดรีเซล
Nike Air Jordan 1 Retro High Chicago
Air Jordan 1 ออกแบบโดย Peter Moore หนึ่งในดีไซน์ที่มีความสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของทั้งสตรีทแวร์และบาสเกตบอล โดยเป็นรองเท้าคู่แรกในไลน์ที่กรุยทางให้กับ Jordan จนถึงปัจจุบัน ด้วยดีไซน์ทรงเพรียวบางผสมกับเทคโนโลยีลดแรงกระแทกที่ปฏิวัติวงการในขณะนั้น Air Jordan 1 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1985 และประสบความสำเร็จอย่างสูง ต่อมาในปี 2015 ก็ได้ออก Jordan 1 Retro มาในโทน ‘Chicago’ สีขาว ดำ และแดง เพื่อเฉลิมฉลองการบุกเบิกของ Jordan ที่มีต่อทีม Chicago Bulls
Nike Air Jordan 1 Retro High Black Toe
‘Black Toe’ Jordan 1 เป็นรองเท้าจากปี 1985 เหมือน Nike Air Jordan 1 High Chicago แต่ต่างตรงแผงและส่วนหุ้มปลายนิ้วเท้าเป็นสีดำ กลายเป็นที่มาของชื่อ Black Toe ถูกนำกลับมาทำใหม่ครั้งแรกในปี 2013 ซึ่งรุ่นนี้เป็นที่ต้องการของนักสะสม ต่อมามีการออก Retro รุ่นที่ 2 ในปี 2016 และมีข่าวลือว่าจะมีเวอร์ชันใหม่ในปีนี้ด้วย
Nike Air Jordan 1 Retro High Black White
Jordan 1 สีดำและขาวผลิตออกมาในปี 1985 และนำกลับมาทำใหม่อีกครั้งในปี 2008 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Countdown Pack คอลเล็กชันพิเศษของ Jordan และอีกครั้งในปี 2014 ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่นปี 2008 ตรงที่ลิ้นรองเท้ามีแบรนด์ Nike Air แบบดั้งเดิมแทนที่รูป Jumpman
Nike Air Jordan 1 Retro Low East Side
รุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘Regional Pack’ วางจำหน่ายในปี 2007 เฉพาะฝั่งตะวันออกของอเมริกาเท่านั้น เป็นรองเท้าผ้าใบข้อต่ำทรงเตี้ย ทำจากหนังสีขาวพร้อมส่วนหุ้มชั้นนอกสีน้ำเงินเพิ่มเท็กซ์เจอร์ และเครื่องหมาย Swoosh สีแดง แถบที่ส้นมีตัวหนังสือเขียนว่า ‘East Side’
Nike Air Jordan 3 Retro GS White Cement
หลังจากที่ Peter Moore ลาออกจาก Nike ทางแบรนด์ได้จ้าง Tinker Hatfield มาทำงานแทน และได้ร่วมกับ Michael Jordan สร้าง Air Jordan 3 ในปี 1988 ซึ่งเป็นรองเท้าบาสเกตบอลแบบมิดคัตและมีฟีเจอร์ ‘Visible Air’ เป็นรุ่นแรก และยังเป็นรุ่นเปิดตัว Jumpman อันเป็นเอกลักษณ์ที่ลิ้นรองเท้า Jordan 3 Retro เปิดตัวอีกครั้งในปี 2011 ด้วยโทนสี White/Cement โดยมีอัปเปอร์เป็นหนังกลับสีขาวพร้อมส่วนหุ้มชั้นนอกพิมพ์ลายซีเมนต์สีเทาที่ปลายและส้นเท้า
Nike Air Jordan 3 Retro Stealth
รองเท้ารุ่นนี้ทำขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 23 ปีของ Nike Air Jordan 3 ตรงกับหมายเลข 23 บนเสื้อของ Micheal Jordan มาในโทนสีเทาไล่เฉดตั้งแต่อัปเปอร์หนังนูบัคสีเทา พร้อมส่วนหุ้มชั้นนอกพิมพ์ลายซีเมนต์สีเทาอ่อน พื้นรองเท้าชั้นกลางเป็นสีดำ และพื้นรองเท้าชั้นนอกเป็นสีขาว เพิ่มรายละเอียดด้วยตาไก่สีแดง
Nike Air Jordan 4 Retro Military Blue
Jordan 4 Retro เปิดตัวในปี 2006 นับเป็นการทำใหม่ครั้งแรกของ OG Military Blue นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1989 ส่วนบนเป็นหนังสีขาวตัดกับส้น รูตาไก่ และพื้นรองเท้าชั้นกลางที่เป็นสีน้ำเงิน Military แต่ต่างจากรุ่นก่อนตรงที่ตรงเพิ่มโลโก้ Jumpman บนแถบที่ส้น ตรงข้ามกับโลโก้ Nike Air
อ้างอิง
- https://marketrealist.com/p/how-much-does-michael-jordan-make-from-jordans/?fbclid=IwAR3HNkDyYcqAWEaDQVaFRu7cSyAp_6HGoPqOAUchbb1w-JzU9SYebbciZqY#:~:text=Initially%2C%20Jordan%20was%20offered%20a,%2C%22%20investor%20Joe%20Pompliano%20tweeted
- https://www.sothebys.com/en/articles/7-retro-jordans-every-sneaker-collector-needs?locale=en&fbclid=IwAR1b2aY3LJuGOXIM0R-UQ4jeV1Rg-V0UeSUTFKHgb5_bpUP_PZfM6x09shk
- https://thestandard.co/nike-jordan-5-years-19-billion/