Harvey Nichols ที่ลอนดอนกลายเป็นอีกหนึ่งห้างหรูที่ประกาศเลิกขายไอเท็มที่ทำจากขนเฟอร์แท้ เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นปราศจากขนเฟอร์ซึ่งมีกรรมวิธีในการผลิตที่ทารุณกรรมต่อสัตว์
Harvey Nichols เผยว่าทางบริษัทกำลังเริ่มกระบวนการเลิกขายสินค้าที่ทำจากขนเฟอร์ และจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ตามนโยบายที่โฟกัสเรื่องความยั่งยืน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ริเริ่มนโยบาย ‘Fur-Free’ มาตั้งแต่ปี 2004 แต่ก็กลับมาขายโปรดักต์เหล่านั้นอีกครั้งในปี 2013 โดยแบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ที่มีร้านอยู่ในห้าง Harvey Nichols เช่น Canada Goose และ Moncler ต่างก็ประกาศนโยบายเลิกใช้ขนเฟอร์กันไปแล้ว
Humane Society International (HSI) ของประเทศอังกฤษ เผยว่าพวกเขาดึงตัวห้างใหญ่อย่าง Harvey Nichols มาร่วมแคมเปญ #FurFreeBritain ขององค์กรได้สำเร็จ และทางห้างลักชัวรียังตัดสินใจที่จะดำเนินการสืบสวนฟาร์มผลิตขนเฟอร์ของประเทศจีนร่วมกับองค์กรปกป้องคุ้มครองสัตว์อีกด้วย
Claire Bass ผู้อำนวยการอาวุโสของแคมเปญและกิจกรรมสาธารณะแห่ง HSI ประเทศอังกฤษ เผยว่า “การที่ Harvey Nichols จะทำตามนโยบาย Fur-Free เป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำในแคมเปญสำหรับ ‘อังกฤษที่ปราศจากขนเฟอร์’ ของเรา ห้างสรรพสินค้าอังกฤษชื่อดังระดับโลกห้างนี้ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่า ‘ขนเฟอร์ที่ทำขึ้นอย่างถูกจริยธรรม’ มันไม่มีอยู่จริง และการทำฟาร์มขนเฟอร์ก็ย้อนแย้งกับความคิดในเรื่องของความยั่งยืนทั้งหมด”
ก่อนหน้านี้แพลตฟอร์มแฟชั่นและแบรนด์เสื้อผ้าที่ประกาศเลิกใช้ขนเฟอร์ก็มีทั้ง Frasers Group, FARFETCH, NET-A-PORTER, Burberry, Chanel, Dolce & Gabbana และ Prada เป็นต้น
ภาพ: Tim P. Whitby / Getty Images for Harvey Nichols
อ้างอิง: