วันนี้ (26 มกราคม) ไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญในวันที่ 27 มกราคมนี้ ที่ห้องประชุมใหญ่ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ว่ามีวาระที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 8 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 9 ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีจำนวนไม่เกิน 30 คน และยกเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค
ประเด็นที่ 2 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 11 ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคการเมือง ให้เลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ มติของที่ประชุมที่เห็นชอบให้ผู้เข้ารับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม
ประเด็นที่ 3 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 17 (1) ให้หัวหน้าพรรคมีหน้าที่และอำนาจ ดังนี้
- แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการสำนักงานพรรค รองเลขาธิการพรรค โฆษกพรรค รองโฆษกพรรค และตำแหน่งอื่นๆ ในการบริหารพรรค
- แต่งตั้งและถอดถอนคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานเพื่อประโยชน์ของกิจการพรรคการเมือง มีอำนาจหน้าที่ตามที่หัวหน้าพรรคการเมืองมอบหมาย
- แต่งตั้งและถอดถอนที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร
- อนุมัติจัดตั้ง และยุบเลิกสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด หรือให้กรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดพ้นจากตำแหน่ง ให้หัวหน้าพรรคมอบหมายรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคคนหนึ่งคนใดหรือหลายคนดำเนินการแทนก็ได้ และรายงานให้คณะกรรมการบริหารพรรคทราบ
ประเด็นที่ 4 ยกเลิกความใน (4) ของข้อ 17 ให้ยกเลิกหน้าที่และอำนาจของผู้อำนวยการพรรค
ประเด็นที่ 5 แก้ไขเพิ่มเติมข้อ 30 ให้ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่ครบวาระอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดขึ้นใหม่ เว้นแต่หัวหน้าพรรคหรือรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย มีคำสั่งให้ไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ประเด็นที่ 6 เพิ่มความวรรคสามของข้อ 90 เพื่อประโยชน์ในการคัดเลือกบุคคลเสนอให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามวรรคหนึ่ง จะดำเนินการคัดเลือกไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป โดยการประกาศเชิญชวนและการเสนอชื่อบุคคลที่เห็นสมควรจะเสนอให้ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการบริหารพรรค ให้ดำเนินการในที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ได้
ประเด็นที่ 7 เพิ่มบทเฉพาะกาล เพิ่มข้อ 115 รองหัวหน้าพรรคที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนข้อบังคับแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้บังคับใช้ ให้ยังคงดำรงตำแน่งรองหัวหน้าพรรคต่อไปจนกว่าครบวาระ
ประเด็นที่ 8 เพิ่มข้อ 116 เมื่อมีประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้ข้อบังคับฉบับนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว
“ที่น่าสนใจที่สุดคือ ประเด็นที่ 6 แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับพรรค ให้การคัดเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการคัดเลือกไว้เป็นการล่วงหน้าก่อนวันประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไป โดยการประกาศเชิญชวนและการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการบริหารพรรคให้ดำเนินการในที่ประชุมใหญ่ของพรรคก็ได้ ทั้งนี้ในวันประชุมใหญ่สามัญ หลังแก้ไขข้อบังคับแล้ว อาจจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมใหญ่ด้วย” ไพบูลย์กล่าว