Microsoft ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 มกราคม) ว่าบริษัทเตรียมเพิ่มเงินลงทุนให้กับ OpenAI บริษัทห้องแล็บปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นผู้สร้าง ChatGPT ระบบ AI ที่กำลังโด่งดังและเป็นที่กล่าวขวัญถึงในเวลานี้ กับ DALL-E
รายงานระบุว่า การลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนต่อเนื่องหลายปี ภายใต้วงเงินงบลงทุนมูลค่าราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ นับเป็นการร่วมลงทุนครั้งที่ 3 หลังจากที่ทาง Microsoft ได้เข้าไปลงทุนใน OpenAI แล้วถึง 2 ครั้ง ในปี 2019 และปี 2021
แถลงการณ์ของ Microsoft ระบุว่า การเป็นหุ้นส่วนใหม่จะช่วยเร่งความก้าวหน้าในด้าน AI และช่วยให้ทั้งสองบริษัททำการค้าเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต
ด้าน Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวในบล็อกโพสต์ว่า ความร่วมมือกับ OpenAI มีขึ้นภายใต้ความทะเยอทะยานของทั้ง 2 ฝ่าย ในการที่จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาการวิจัย AI ที่ทันสมัยอย่างมีความรับผิดชอบ และทำให้ AI เป็นประชาธิปไตยในฐานะแพลตฟอร์มเทคโนโลยีใหม่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา OpenAI ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Azure บริการคลาวด์ของ Microsoft โดยในเดือนกรกฎาคม 2019 Microsoft สนับสนุน OpenAI ด้วยเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ และการลงทุนดังกล่าวทำให้ Microsoft เป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ‘แต่เพียงผู้เดียว’ ของ OpenAI ซึ่งทาง Microsoft ย้ำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า Azure จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการพิเศษของ OpenAI
รายงานระบุว่า การลงทุนของ Microsoft ล่าสุดนี้ จะช่วยให้ทั้ง 2 บริษัทมีส่วนร่วมในซูเปอร์คอมพิวติ้งในระดับต่างๆ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
OpenAI ได้รับการจัดอันดับโดยนักวิจัย AI ให้เป็น 1 ใน 3 ห้องปฏิบัติการ AI ชั้นนำของโลก และก่อนหน้านี้บริษัทได้พัฒนาซอฟต์แวร์ AI สำหรับเล่นเกมที่สามารถเอาชนะมนุษย์ในวิดีโอเกม เช่น Dota 2 อย่างไรก็ตาม ระบบ AI ที่ทำให้บริษัทได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากกว่า ก็คือ ChatGPT ตัวสร้างข้อความ และเครื่องสร้างภาพ AI อย่าง DALL-E
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ Microsoft เพิ่งจะประกาศเลิกจ้างพนักงานราว 10,000 คน เพื่อตัดลดค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับรายรับ ท่ามกลางความต้องการซอฟต์แวร์ที่อ่อนแอลง แต่ก็สอดคล้องกับจุดยืนของบริษัทที่ระบุอย่างชัดเจนในประกาศเลิกจ้างว่า Microsoft จะยังคงลงทุนและจ้างงานในส่วนที่มีโอกาสเติบโตและมีความสำคัญสูงกับบริษัทต่อไป
ด้าน OpenAI ระบุในแถลงการณ์ว่า จาก Microsoft จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการวิจัยได้อย่างอิสระ เพื่อเดินหน้าพัฒนา AI ให้มีความปลอดภัย เป็นประโยชน์และทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘ChatGPT’ แชตบอตโด่งดังสุดอัจฉริยะ ที่กำลังเขย่าโลก ‘AI’ และอาจจุดชนวน Tech Disruption อีกครั้ง
- โลกสะเทือนหรือไม่? การมาของ ‘ChatGPT’ จะ Disrupt วงการใดบ้าง
- ChatGPT ปลุกยักษ์! Google ตั้งทีมพิเศษเร่งพัฒนาเทคโนโลยี สู้ศึกกับ OpenAI หวังชิงเค้กคืน
อ้างอิง:
