วานนี้ (19 มกราคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัสเซียประกาศเตือน อาจยกระดับการสู้รบในสงครามยูเครนให้ยิ่งอันตรายและรุนแรงขึ้น หากองค์การ NATO ตัดสินใจส่งมอบอาวุธหนัก เช่น รถถังยานเกราะและระบบยิงขีปนาวุธระยะไกลให้กับยูเครน
โดยคำเตือนดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่บรรดาชาติพันธมิตรตะวันตกของยูเครนจะประกาศสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือยูเครนปกป้องดินแดนและอธิปไตยของตน หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครนมานานเกือบ 1 ปีเต็ม
ขณะนี้มีอย่างน้อย 9 ชาติในยุโรปที่ให้คำมั่นจะส่งมอบอาวุธและความช่วยเหลือทางการทหารให้กับยูเครน ไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักร โปแลนด์ ลัตเวีย ลิทัวเนีย เดนมาร์ก สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย เนเธอร์แลนด์ และสโลวาเกีย
ขณะที่เยอรมนีกำลังได้รับแรงกดดันมากเป็นพิเศษ หลังจากได้รับการร้องขอให้ส่งรถถัง Leopard 2 หรืออนุญาตให้ประเทศที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในเยอรมนีสามารถเคลื่อนย้ายอาวุธเหล่านั้นออกนอกประเทศได้ โดยทางการเยอรมนีชี้ว่า การส่งมอบดังกล่าวจะเกิดขึ้นหากได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา
ทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียชี้ว่า การที่ชาติตะวันตกส่งมอบอาวุธหนักให้แก่รัสเซียอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งในระดับใหม่ที่ยกระดับขึ้น และแน่นอนว่าจะไม่เป็นผลดีต่อความมั่นคงยุโรปและความมั่นคงโลก
ด้าน นายพล คริสโตเฟอร์ กาโวลี ผู้บัญชาการกองกำลัง NATO ในยุโรปชี้ว่า ระดับความเสี่ยงในสงครามยูเครนอาจยกระดับขึ้น เนื่องจากบรรดาชาติพันธมิตรตะวันตกส่งมอบอาวุธหนักให้แก่ยูเครน แต่เขาเชื่อว่าทาง NATO และพันธมิตรจะสามารถบริหารความเสี่ยงนั้นได้อย่างแน่นอน
โดยผู้แทนสหรัฐฯ และบรรดาชาติพันธมิตรอีกราว 50 ชาติจะร่วมกันหารือในประเด็นนี้ที่ฐานทัพอากาศแรมสตีนในรัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ทางภาคตะวันตกของเยอรมนี ในวันนี้ (20 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น
แฟ้มภาพ: Vyacheslav Oseledko / AFP
อ้างอิง: