วันนี้ (11 มกราคม) สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการยืนยันจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันตก ( WAFF) ให้ทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2023 (WAFF 10th Championship) ตามที่ได้ส่งจดหมายเชิญมาก่อนหน้านี้ และสมาคมฯ ได้แสดงความสนใจเข้าร่วมในฐานะทีมนอกภูมิภาค
โดย พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า “ก่อนอื่น ผมต้องขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับทีมชาติไทย ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน ประจำปี 2022 ได้สำเร็จ และขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาชมกันเต็มสนามในเกมนัดที่ผ่านมา
“สมาคมฯ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้ประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทยก่อนเข้าร่วมแข่งขันทัวร์นาเมนต์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รวมถึงฟุตบอลเอเชียนคัพรอบสุดท้าย ที่จะแข่งขันในช่วงหลังจากนี้
“โดยสมาคมฯ แจ้งความสนใจส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2023 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 2 เมษายน 2023 ซึ่งทาง WAFF ได้ส่งหนังสือยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วม ระเบียบการแข่งขัน และโปรแกรมการแข่งขันให้กับสมาคมฯ เพื่อดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว
“หลังจากนี้ สมาคมฯ ได้มอบหมายให้บริษัท ไทยลีก ดำเนินการประสานกับสโมสรสมาชิก เพื่อปรับโปรแกรมการแข่งขันให้สอดคล้องและเหมาะสมสำหรับการเตรียมทีมชาติไทยในการทำการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว ซึ่งผมเชื่อว่าฟุตบอลรายการนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทีมชาติไทย รวมถึงนักเตะไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อย่างมาก”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้นอกจากทีมชาติไทยแล้วยังมีอีก 11 ชาติเข้าร่วม ประกอบไปด้วยเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, บาห์เรน, อิรัก, จอร์แดน, คูเวต, เลบานอน, โอมาน, ปาเลสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย และเยเมน โดยการจับฉลากแบ่งสายจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมนี้
นอกจากนี้ การแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ยังถูกจัดในระดับฟีฟ่า Tier 1 (เพื่อนับเป็น ‘A’ Match) และต้องลงทะเบียนนักเตะ 30 วันก่อนการแข่งขัน โดยคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งยังมีผลต่อการจัดอันดับเพื่อจัดโถฟุตบอลรายการเอเชียนคัพรอบสุดท้ายในช่วงเดือนเมษายนนี้ด้วย