ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้มเกณฑ์คุมโควิด หวังลดความเสี่ยงโควิดระบาดเพิ่ม หลังติดโผประเทศยอดฮิตที่ชาวจีนแห่ท่องเที่ยวหลังการเปิดประเทศครั้งแรกรอบ 3 ปี โดยญี่ปุ่นจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือผู้มีประวัติเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ภายใน 7 วัน ต้องทดสอบหาเชื้อไวรัสเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคมนี้
นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น ได้ออกมาประกาศเตรียมยกระดับขั้นตอนการควบคุมบริเวณพรมแดนต่อนักท่องเที่ยวที่มาจากจีน เนื่องจากจำนวนผู้ติดโควิดในจีนยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ต้องรีบซื้อตุน? เหตุยุค ‘เงินเยน’ อ่อนค่าอาจจบแล้ว! หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ แผ่วกว่าคาด ดึงดอลลาร์อ่อน
- ราคาห้องพักและโรงแรมใน ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นแล้ว 10-20% จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเงินเฟ้อ
- ญี่ปุ่นจ๋าพี่มาแล้ว! นี่คือ 5 เซอร์ไพรส์เล็กๆ จากญี่ปุ่นที่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
ทั้งนี้ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือผู้มีประวัติเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่ภายใน 7 วัน ต้องทดสอบหาเชื้อไวรัสเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ (30 ธันวาคม) เป็นต้นไป โดยผู้ที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วัน ส่วนผู้ที่ไม่แสดงอาการแต่เดินทางจากจีนต้องกักตัวเป็นเวลา 5 วัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในจีน และเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น
นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการทดสอบอย่างละเอียด รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าจะจำกัดเที่ยวบินขาออกและขาเข้าที่เชื่อมต่อระหว่างญี่ปุ่นกับจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊าไว้ที่ 4 สนามบิน ได้แก่ นาริตะ ฮาเนดะ คันไซ และชูบุ และกำลังร้องขอให้สายการบินต่างๆ ไม่เพิ่มเที่ยวบินดังกล่าวจากเส้นทางดังกล่าว
นอกเหนือจากสนามบินหลัก 4 แห่ง รัฐบาลญี่ปุ่นยังขอให้ทางสายการบิน Cathay Pacific Airlines, Hong Kong Airlines และ Hong Kong Express Airways หยุดเที่ยวบินที่เชื่อมต่อฮ่องกงกับซัปโปโร ฟุกุโอกะ และนาฮา ตั้งแต่วันศุกร์นี้ด้วย
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากจีนประกาศว่าจะเปิดพรมแดนอีกครั้งในวันที่ 8 มกราคมนี้ โดยได้ยกเลิกมาตรการกักตัวที่มีอยู่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
นายกรัฐมนตรีคิชิดะของญี่ปุ่นกล่าวถึงสาเหตุของการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า เนื่องจากเป็นการยากที่จะเข้าใจสถานการณ์โดยละเอียดในประเทศจีน ทำให้ญี่ปุ่นมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิดในประเทศเพิ่มมากขึ้น พร้อมอ้างถึงช่องว่างของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสที่ปล่อยออกมาโดยรัฐบาลและภาคเอกชน
นายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวว่า ขั้นตอนชั่วคราวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อหลีกเลี่ยง ‘การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว’ ของผู้ติดโควิดในญี่ปุ่น และกล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นในขณะที่พิจารณาสถานการณ์การติดเชื้อในจีน โดยจะคำนึงถึงการเดินทางระหว่างประเทศของผู้คนด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนธันวาคมจีนได้ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวดลงอย่างมาก พร้อมเลิกนับจำนวนผู้ป่วยที่แน่นอน และลดการรายงานผู้ติดเชื้อเหลือเพียงวันละครั้ง แต่การผ่อนคลายดังกล่าวกลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับจำนวนผู้ติดโควิดที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ผู้นำญี่ปุ่นออกมาตรการคุมเข้มผู้โดยสารที่เดินทางจากจีนไม่นาน ทางการจีนก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้แสดงความไม่พอใจ โดยจีนกล่าวว่ามาตรการที่วางแผนไว้อาจขัดขวางการเคลื่อนย้ายของผู้คนระหว่างสองประเทศ
หวังเหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำวันที่กรุงปักกิ่งว่า จีนเชื่อว่ามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดควรเป็นวิทยาศาสตร์และอยู่ในระดับปานกลาง และไม่ควรส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้า-ออกระหว่างประเทศของบุคคลตามปกติ
ปัจจุบันผู้เดินทางไปญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องตรวจหาโควิดเมื่อเดินทางมาถึง ตราบใดที่นักเดินทางเหล่านี้แสดงหลักฐานว่าผ่านการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 ครั้ง หรือมีผลตรวจเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
ส่วนผู้ที่เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นด้วยอาการต้องสงสัยว่าติดโควิดจะได้รับการตรวจเมื่อเดินทางมาถึง และจะต้องกักตัวในสถานที่ที่กำหนดหากผลตรวจเป็นบวก
อ้างอิง: