วานนี้ (1 ธันวาคม) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เปิดเผยว่า พรรคไทยภักดีเตรียมเปิดแคมเปญรณรงค์นโยบาย ‘เพิ่มมากกว่าแก้ ม.112 ไม่คิดล้มล้าง ไม่ต้องกลัว’ เนื่องจากเห็นว่า การรณรงค์ของคนกลุ่มหนึ่งที่เสนอแก้ไข ม.112 ในแต่ละประเด็นที่เสนอ มีแต่จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์อ่อนแอลง
ดังนั้นพรรคไทยภักดี ซึ่งมีจุดยืนชัดเจนว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบอบการปกครองที่สอดคล้องกับประเทศไทยและเหมาะสมกับวิถีชีวิตของคนไทย เราจึงจะเสนอแก้ไข ม.112 โดยเพิ่มบทบัญญัติซึ่งทำให้ ม.112 ครอบคลุมการคุกคาม จาบจ้วงที่มาในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดำรงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็งมากขึ้น
นพ.วรงค์กล่าวว่า รายละเอียดการเสนอแก้ไข ม.112 จะให้เพิ่มเติมบทบัญญัติการคุ้มครอง ครอบคลุมใน 3 ประเด็นคือ สถาบันพระมหากษัตริย์ อดีตพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในราชวงศ์จักรี และพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป
เหตุผลคือ ทุกวันนี้กลุ่มคนที่ต้องการล้มล้างสถาบันฯ ได้ปรับรูปแบบ วิธีการจาบจ้วง เนื่องจากรู้ว่า จาบจ้วงโดยตรงไปที่พระมหากษัตริย์-พระราชินีไม่ได้ ก็ใช้วิธีจาบจ้วงอดีตพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดินที่ใกล้ชิด เพื่อลดความน่าเชื่อถือและทำลายพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน
ส่วนประเด็นของบทลงโทษนั้น พรรคไทยภักดีจะไม่แตะ เพราะมีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว
นพ.วรงค์กล่าวว่า เพื่อเป็นการรับฟังและเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ พรรคไทยภักดีร่วมกับสถาบันทิศทางไทยเตรียมจัดเสวนาใหญ่ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมพรรคไทยภักดี โดยวิทยากร นอกจากตนเองแล้ว ยังมี ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้เขียนหนังสือ สถาบันกษัตริย์: ความจริงที่ถูกบิดเบือน, ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน, ถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี และ ดร.เวทิน ชาติกุล ผู้อำนวยการสถาบันทิศทางไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ