หลังจากตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ ล่าสุด ลูกหนัง-ศีตลา วงษ์กระจ่าง ได้เปิดใจผ่านรายการ On That Day EP.27 ในหลายๆ ประเด็น เริ่มตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก ความฝัน แรงบันดาลใจจากคุณพ่อ, จุดเริ่มต้นและเบื้องหลังการทำงานในประเทศเกาหลีใต้กับค่าย Grandline Group (GLG) ไปจนถึงเหตุการณ์วันเดบิวต์ในฐานะสมาชิกวง H1-KEY จุดเริ่มต้นของกระแสดราม่าที่ส่งให้แฮชแท็ก #SITALA #แบนลูกหนัง ติดท็อปเทรนด์ทวิตเตอร์ในไทยอยู่หลายวัน ซึ่งทั้งหมดเป็นผลกระทบย้อนหลังมาจากจุดยืนและมุมมองทางการเมืองของเธอและคนในครอบครัว และมันได้ส่งผลกระทบต่อตัวเธอมาจนถึงทุกวันนี้ โดยลูกหนังได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า
“วันนั้นเราตื่นขึ้นมาแล้วค่ายก็โทรให้เราคนเดียวเข้าไปหา เขาบอกว่าแม่โทรมาเกือบร้อย Miss Call เขาให้เราโทรคุยกับคุณแม่ ครั้งแรกที่รับโทรศัพท์คุณแม่ร้องไห้ คุณแม่ก็อธิบายให้ฟังว่ามีเรื่องแบบนี้นะ
“พอเราได้รับข่าวสารจากคุณแม่แล้ว โอเค มันเป็นแบบนี้นะ เดี๋ยวเราลองจะเข้าไปดู เพราะตัวเราไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ ก็เลยลองเข้าไปดู ก็เข้าไปอ่านทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถามว่าช็อกไหม ก็เถียงไม่ได้ว่าเราช็อก แต่ว่าเราเข้าใจ เพราะมันมีเหตุมีผลว่าทำไมมันถึงเกิดแฮชแท็กนี้”
ลูกหนังเล่าเพิ่มเติมว่าหลังจากที่ได้เข้าไปอ่านและทำความเข้าใจกับความคิดเห็นของผู้คนและสิ่งที่อยู่ในแฮชแท็กนั้น เธอเกิดทั้งความรู้สึกเสียใจอย่างปฏิเสธไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็เข้าใจเหตุและผลของมัน
“เราเข้าใจจริงๆ ค่ะว่าแอ็กชันที่เราทำในอดีตมันส่งผลให้คนกลุ่มไม่น้อยเลยเขาซัฟเฟอร์ รู้สึกว่าเราไม่เคยอยากให้แอ็กชันของเราไปทำให้ใครต้องรู้สึกไม่ดี ต้องรู้สึกเสียใจ ต้องรู้สึกว่าเขาเจ็บปวด เราไม่เคยอยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่ว่าเราก็ไปแก้อดีตไม่ได้”
นอกจากนี้ลูกหนังยังพูดไปถึงความรู้ ความเข้าใจ เรื่องสังคมและการเมืองของตัวเอง รวมถึงจุดยืนของตัวเองในขณะที่เข้าร่วมการชุมนุม
“เราไปเพราะเราเชื่อแบบนั้น และเราอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เราแค่อยากเห็นระบบประเทศไปในทางที่ดีขึ้น เราคิดแค่นั้นเลย เราจะไม่พูดว่าเราเด็กแล้วไปโดยไม่รู้ เอาตรงๆ เราไปด้วยความที่เราเชื่อแบบนั้นจริงๆ และเราก็เชื่อว่าคนที่ออกไปตอนนั้นก็มีจุดประสงค์เดียวกัน คือความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่เราไม่ได้คิดว่าในอนาคต ณ ตอนนั้นมันจะเป็นแบบนี้ ผลที่ตามมาจากที่เราไปตรงนั้นจะทำให้ใครเสียใจ”
ส่วนสิ่งที่ลูกหนังเคยพูดไว้บนสเตจเดบิวต์ว่า ตัวเองเข้าร่วมชุมนุมเพราะยังเด็กและไม่เข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างดีพอ เธอได้เล่าในรายการว่าเป็นคำแนะนำจากทางค่ายเพื่อแก้สถานการณ์ในตอนนั้น ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่การอธิบายให้คนต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยมันยากมากๆ
นอกจากประเด็นต่างๆ ที่พุ่งตรงมาที่ตัวเอง อีกหนึ่งกลุ่มคนที่ถูกพุ่งเป้าไม่แพ้กันก็คือครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะพ่อผู้ล่วงลับอย่าง ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงและอดีตแกนนำพันธมิตร ซึ่งตัวเธอเองก็เล่าว่าได้มีโอกาสคุยกับพ่อก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต เกี่ยวกับผลกระทบทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมครั้งนั้น
“จริงๆ แล้วเราเคยคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้ก่อนที่คุณพ่อจะเสียว่า คุณพ่อรู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่คุณพ่อทำมันทำให้มีเรื่องแบบนี้ เขาทราบและเขาก็เสียใจ เพราะมันมีหลายอย่างที่เขาทำไป และไม่คิดว่ามันจะทำให้ใครหลายคนเสียใจ”
ติดตามรายการ On That Day EP.27 ได้ทาง