วานนี้ (24 พฤศจิกายน) ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้ว่า ขณะนี้ยูเครนกำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องวิกฤตขาดแคลนพลังงานและน้ำสะอาดในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ทางการจึงเร่งเดินหน้าแก้ไขวิกฤต หลังถูกกองทัพรัสเซียโจมตีใส่แหล่งผลิตพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ขณะนี้ยูเครนไม่สามารถผลิตและจัดหาพลังงานมาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในประเทศได้ทั้งหมด ยังขาดอยู่อีกราว 50% ขณะที่ราว 70-80% ของประชาชนชาวยูเครนในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทางการหวั่นว่าประชาชนมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจาก ‘ภาวะตัวเย็นเกิน’ (Hypothermia) เพิ่มมากขึ้น
ทางการยูเครนจึงจัดตั้งจุดให้บริการประชาชนกว่า 4,000 จุดทั่วประเทศ เป็นเต็นท์ที่ให้ประชาชนมานั่งคลายความหนาว จิบชา กาแฟ และสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ในช่วงที่ประเทศกำลังประสบวิกฤตขาดแคลนพลังงานเช่นนี้
เซเลนสกีระบุว่า “กองทัพรัสเซียไม่รู้วิธีการต่อสู้ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือการก่อการร้าย ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้ายด้านพลังงาน ด้านการใช้ปืนใหญ่ข่มขู่หรือใช้ขีปนาวุธโจมตี ทั้งหมดล้วนลดสถานะของรัสเซียลงภายใต้การนำของผู้นำคนปัจจุบัน”
ด้าน อิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน ชี้ว่า “ผู้ก่อการร้ายอย่างรัสเซียเริ่มทำสงครามด้านพลังงานกับเรา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ขณะที่ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของเราคือกลุ่มประชาชนที่เปราะบาง เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้หญิงที่มีลูกน้อย และบรรดาผู้ป่วยในโรงพยาบาล
“โดยประชาชนชาวยูเครนจะต้องอดทนเป็นระยะเวลา 120 วัน เพื่อให้ฤดูหนาวในปีนี้ผ่านพ้น ช่วงเวลานี้คือสิ่งที่รัสเซียตั้งเป้าหมายเอาไว้ พวกเขาต้องการสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัสให้กับประชาชนของเราในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ขณะที่พวกเขากำลังจะผ่านพ้นฤดูหนาว”
ขณะที่ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า การมุ่งโจมตีแหล่งผลิตพลังงานของยูเครนจะยิ่งทำให้ยูเครนอ่อนแอลง ความสามารถในการโต้กลับลดลงและบีบคั้นให้ผู้นำยูเครนจะต้องหันหน้าสู่โต๊ะเจรจาในท้ายที่สุด ส่วน มิไคโล โปโดลยัก ผู้ช่วยประธานาธิบดียูเครน ตั้งข้อสังเกตว่า ทางการรัสเซียทำเป็นเรียกร้องสันติภาพ แต่กลับยิงขีปนาวุธใส่เมืองที่ผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุข ช่างเป็นความผิดปกติทางบุคลิกลักษณะระดับสูงสุด
เบื้องต้นหลายพื้นที่ของยูเครนเริ่มทยอยซ่อมแซมระบบผลิตและแจกจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้บ้างแล้ว โดยอาจต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ แต่หากการโจมตีแหล่งผลิตพลังงานที่สำคัญของยูเครนยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งทำให้วิกฤตขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูหนาวของยูเครนรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ภาพ: Sergei Supinsky / AFP
อ้างอิง: