ความเคลื่อนไหวของหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ล่าสุด ช่วงครึ่งวันแรกของวันนี้ (24 พฤศจิกายน) ราคาหุ้นเปิดดิ่งลงไปอยู่ที่ระดับราคาต่ำสุดที่เป็นไปได้ของวันนี้ (Floor) ที่ระดับ 0.34 บาท ซึ่งเป็นการดิ่งลงไปแตะ Floor เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน โดยราคาหุ้นในช่วง 6 วันที่ผ่านมา ลดลงมาแล้วถึง 87%
อย่างไรก็ตาม หลังจากหุ้น MORE เปิดที่ Floor ในช่วงเช้า หลังจากนั้นเริ่มมีแรงซื้อกลับจนดันให้ราคาหุ้นพุ่งกลับขึ้นไปยืนอยู่ในแดนบวกได้ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันนี้ที่ 0.56 บาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดราว 65% ก่อนที่ราคาจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 0.47 บาท สำหรับครึ่งวันแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จับตา หุ้น MORE ! หลังตลาดหลักทรัพย์และสมาคมโบรกเกอร์เตรียมแถลงแนวทางแก้ปมผิดนัดชำระค่าหุ้น
- ทำความเข้าใจเกม หุ้น MORE ทิ้งคำถามถึงช่องโหว่ของวงการหุ้นไทย
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ แขวนหุ้น ‘MORE’ วันนี้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบธุรกรรม
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การรีบาวด์ของหุ้น MORE น่าจะเป็นผลจากการที่ราคาหุ้นลดลงมาถึง Floor ที่ 6 และราคาลดลงมาใกล้กับมูลค่าทางบัญชี (Book Value) ที่ 0.30 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่เข้ามาซื้อในวันนี้อาจจะเป็นแนวเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ แต่หากมองในเชิงพื้นฐาน ด้วยผลประกอบการจากการดำเนินงานหลักซึ่งไม่รวมกำไรพิเศษยังคงมีผลขาดทุน ทำให้นักลงทุนยังต้องติดตามพัฒนาการในอนาคตของบริษัท
“คนที่เข้ามาเล่นวันนี้อาจจะไม่ได้โฟกัสที่พื้นฐานเป็นหลัก น่าจะเป็นการเก็งกำไรจากราคามากกว่า และด้วยราคาหุ้นที่ลดลงมาต่ำมาก จึงดึงดูดนักลงทุนเข้ามามากขึ้น”
สำนักงาน ปปง. เปิดเผย ภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า เตรียมเข้าตรวจการทำหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 2 แห่ง คือ บล.ไอร่า และ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ได้รายงานข้อมูลธุรกรรมที่มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้ครบถ้วนเป็นไปตามกฎกระทรวงฯ หรือไม่ จากกรณีการซื้อ-ขายหุ้นของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2565
พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า กองกำกับและตรวจสอบของสำนักงาน ปปง. เตรียมทำการเข้าตรวจสอบกรณีการทำหน้าที่การรายงานข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์ จำนวน 2 แห่ง คือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไอร่า จำกัด (มหาชน) กับ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ว่าได้มีรายงานข้อมูลธุรกรรมที่มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้ครบถ้วนเป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นมีความเกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายหุ้นของ บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) ที่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2565
เนื่องจากพบว่า บริษัทหลักทรัพย์จำนวน 2 แห่งดังกล่าวมีการรายงานข้อมูลธุรกรรมการซื้อ-ขายหุ้น MORE ที่พบความผิดปกติ มีความล่าช้าจากหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ หากในกรณีที่ผลการตรวจสอบออกมาพบว่าหลักทรัพย์จำนวน 2 แห่ง พบว่ามีการกระทำผิดจะมีบทลงโทษถูกปรับเงินไม่เกินจำนวน 1 ล้านบาทต่อราย
อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบันยังไม่ได้มีผลสรุปว่า บล.ไอร่า กับ บล.อาร์เอชบี มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นหรือไม่ โดยยังต้องรอผลการตรวจสอบของทีม ปปง. ที่เตรียมจะเข้าดำเนินการตรวจสอบที่จะออกมาก่อน จึงจะมีการสรุปแจ้งผลให้ทราบอีกครั้ง ส่วนกรอบเวลาในการที่ผลสรุปจะออกมาไม่ได้กำหนดไว้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของข้อมูลว่ามีครบถ้วนเพียงพอหรือไม่
“กรณีหากบริษัทหลักทรัพย์ทำผิด ไม่รายงานข้อมูลการทำธุรรมที่มีความเสี่ยง จะมีโทษคือการปรับเงิน ไม่ได้มีบทลงโทษถึงขั้นต้องให้สำนักงาน ก.ล.ต. ยกเลิกใบอนุญาตในการทำธุรกิจหลักทรัพย์ หากยินยอมให้เปรียบเทียบปรับก็สามารถทำได้ในชั้นของ ปปง. แต่หากไม่ยอมจ่ายค่าปรับก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนไป” พล.ต.ต. เอกรักษ์กล่าว
สำหรับกรณีที่การรายงานข่าวว่า พบข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาใช้งานบัญชีซื้อขายหุ้น MORE ในฝั่งผู้ซื้อที่มีการกระทำความผิดในวันที่ 10-11 พฤศจิกายน และอาจมีการซื้อขายผิดปกติเกิดขึ้นนั้น ถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวน เพราะไม่ได้อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ปปง.
“การดำเนินคดีความที่เกี่ยวข้องการตรวจสอบหุ้น MORE แยกออกเป็น 2 เรื่อง คดีแรกเกี่ยวข้องคดีอาญา ตอนนี้อยู่ที่การดำเนินการของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เรื่องที่สองคือ คดีแพ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการของกองคดี 5 ของ ปปง. ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ”