ปัจจุบันการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการดูแลใบหน้าของเราแล้วยิ่งเป็นสิ่งที่คนให้ความสนใจ เพราะทุกวันนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่เป็นตัวช่วยให้ผิวและใบหน้าของเรากระชับขึ้น แข็งแรงขึ้น และลดการหย่อนคล้อยอย่างเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยไม่ต้องผ่าตัดให้น่ากลัวเหมือนสมัยก่อน แถมระยะเวลาในการพักฟื้นยังน้อย แต่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายในการทำที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆ
เรากำลังพูดถึงการทำอัลเทอรา (Ulthera) นวัตกรรมยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะมีตัวเลือกมากขึ้นตั้งแต่การทำในคลินิกน้อยใหญ่ เรื่อยไปจนถึงการทำในโรงพยาบาลชั้นนำ โดยมีราคาเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหมื่นปลาย ด้วยความที่ราคาแตกต่างกันมาก และแต่ละแห่งก็มีเครื่องมือและขั้นตอนที่ต่างกัน หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าทรีตเมนต์ Ulthera ที่มีอยู่นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร และเราควรใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกสถานที่ทำ
ครั้งนี้เราจึงชวน พญ.กาญจนา เสริมสวรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ มาพูดคุยถึงข้อสงสัยดังกล่าว และช่วยหาคำตอบว่าจริงๆ แล้วใครกันแน่ที่เหมาะกับการทำ Ulthera
พญ.กาญจนา เสริมสวรรค์ ผู้อำนวยการศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
อยากทราบว่าทรีตเมนต์ Ulthera ของที่โรงพยาบาลแตกต่างจากคลินิกอย่างไร
หากมารับบริการที่โรงพยาบาล การทำอัลเทอรา ถือเป็นหัตถการที่ทำโดยแพทย์ทางด้านตจวิทยา หรือแพทย์ชำนาญการด้านโรคผิวหนังโดยตรง ข้อดีคือ ประเมินวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด ครอบคลุม หากเกิดปัญหา หรือมีความผิดปกติในระหว่างการรักษา แพทย์สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที จึงวางใจได้ว่าไม่ใช่แค่ความสวย แต่ยังปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
อย่างของโรงพยาบาลกรุงเทพ ใช้เครื่องรุ่นที่ได้มาตรฐานขั้นสูง เกรดเดียวกับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ มีหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวทุกครั้งก่อนยิง รวมถึงหัวที่มีความลึกถึง 3 ระดับ ที่เหมาะกับปัญหาและชั้นผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการยิงอัลเทอราทุกช็อตจึงมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงกว่าการยิงเครื่องยกกระชับชนิดอื่นๆ
นอกจากนี้แพทย์จะกำหนดจำนวนช็อต ระดับความลึกถึงชั้นใต้ผิวหนัง SMAS ในแต่ละจุดของใบหน้าแตกต่างกัน และวางแผนแนวทางการรักษาทรีตเมนต์อื่นๆ ร่วมด้วยเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เห็นว่าที่อื่นมีการกำหนดจำนวนช็อต เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้กี่ช็อต
อันนี้ขึ้นกับความคล้อย จริงๆ ของ Ulthera เราเรียกไลน์ พื้นที่ของใบหน้าก็มีส่วน เช่น บางคนใบหน้าใหญ่ จำนวนไลน์ต้องเยอะกว่า แต่ถ้าพื้นที่ใบหน้าได้มาตรฐานก็จะมีจำนวนไลน์แบบมาตรฐาน ถ้าหากว่าเราไม่ได้คล้อยไปกว่านั้น เราจะใช้ประมาณมาตรฐาน แต่ว่าถ้าเป็นคนที่คล้อยมาก เราดูแล้วว่าแค่นี้ไม่พอแน่ก็จะเสริม ทำจนกระทั่งมั่นใจว่าต้องเห็นผล ต้องได้ประสิทธิภาพดี
ใครที่เหมาะกับการทำ Ulthera และใครที่ไม่เหมาะกับทรีตเมนต์นี้
ทรีตเมนต์นี้เหมาะสำหรับคนรู้สึกถึงความหย่อนคล้อยที่ใบหน้า หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม ลำคอ เนินอก เพราะคอลลาเจนที่ลดลง และเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้มีโครงชัดเจน รวมถึงผู้ที่โครงหน้าใหญ่และอยากกระชับผิวให้กรอบหน้าเรียวขึ้น โดยไม่อยากผ่าตัด ซึ่งการทำ Ulthera ดีกว่าเครื่องมืออื่นตรงที่สามารถรักษาถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังและไขมัน ช่วยกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจน จึงเจ็บกว่าเครื่องปกติทั่วไป แต่แพทย์มีวิธีการบรรเทาอาการเจ็บเพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้น เช่น การแปะยาชา และการนวดบรรเทาอาการเจ็บ
ในขณะนี้เครื่องมืออื่นเคลมว่าลดริ้วรอย แก้ปัญหาย่นคล้อย แต่ราคาถูกได้ เพราะผลลัพธ์อยู่ไม่นาน ต้องทำบ่อยครั้งกว่า ส่วนผู้ที่ไม่เหมาะกับ Ulthera คือผู้ป่วยที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดถาวร หรือ Pacemaker ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่กินยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
ต้องอายุเท่าไรถึงควรเริ่มต้นทำ Ulthera
ปัจจุบันถ้าอายุ 40 ปีควรทำแล้ว แต่ก็แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนด้วย บางคนต้องทำเร็วกว่านั้น เช่น คนที่มีความคล้อยเร็วกว่าคนอื่น บางคนอายุ 35 ปีขึ้นไปก็ทำได้แล้ว ดังนั้น อายุไม่ได้เป็นข้อตัดสิน สภาพที่แท้จริงของผิวต่างหากที่เป็นตัวตัดสิน บางคนอายุยังไม่เท่าไรแต่เริ่มเห็นแววคล้อย อันนี้ก็อาจจะต้องเริ่มทำเลย
เราสามารถทำ Ulthera ได้บ่อยขนาดไหน หากทำบ่อยจะเป็นอันตรายหรือไม่
การทำในแต่ละครั้งจะเห็นความกระชับของผิวที่เต่งตึงยิ่งขึ้นประมาณ 30% แล้วจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้นอย่างเต็มที่ในช่วงเดือนที่ 3-6 หลังจากรับบริการ และเห็นผลยาวนานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล การทำบ่อยๆ จึงไม่ได้เกิดอันตราย ยิ่งอายุมากก็จะเกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้น แต่ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ และทำหัตถการนี้กับแพทย์ที่มีความชำนาญการ มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
การทำ Ulthera แต่ละแห่งแตกต่างกัน เราควรเลือกอย่างไรดี
ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยว่าทำโดยใคร เครื่องมือได้มาตรฐานหรือไม่ ที่สำคัญควรเป็นแบรนด์หรือสถาบันที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ดีหรือไม่มีประสิทธิภาพจนต้องแก้ไขซ้ำ
แต่หากมารับบริการในโรงพยาบาล คนไข้จะได้เจอแพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง (ตจแพทย์) ที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์การทำ รวมไปถึงเครื่องมือที่ได้มาตรฐานรับรองจาก FDA และผ่านการรับรองมาตรฐานของไทย เพราะโรงพยาบาลจะมีการควบคุมมาตรฐานและได้รับรองมาตรฐานขั้นสูงอยู่แล้ว ดังนั้น สามารถมั่นใจได้ว่า การทำหัตถการความงามในสถานบริการที่ได้รับรองมาตรฐานจะช่วยให้การรักษานั้นได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และตอบโจทย์คนไข้ได้มากที่สุด
หากตัดสินใจทำแล้ว เราควรเตรียมตัวก่อนและหลังการทำอย่างไรบ้าง
หากเป็นที่โรงพยาบาล ก่อนทำหัตถการ แพทย์จะตรวจประเมินสุขภาพองค์รวมเบื้องต้นของคนไข้ เพื่อดูความพร้อมในการทำอย่างละเอียด เราจะไม่ได้ทำตามความต้องการของคนไข้เพียงอย่างเดียว แพทย์จะรับฟังโจทย์ของคนไข้ก่อน หลังจากนั้นแพทย์ก็จะตรวจดูว่าคนไข้มีความพร้อมในการทำแค่ไหน ก่อนวางแผนการรักษาและพูดคุยกับคนไข้ อธิบายและสรุปแผนการรักษาให้คนไข้ฟัง ส่วนหลังทำเสร็จ ควรงดออกแดด ทาครีมกันแดด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนรอยช้ำโอกาสเกิดน้อยมาก รอยแดงอาจเจอได้บ้าง แต่อย่างมากก็แค่ 1-2 วันก็จะหายแล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่าการทำ Ulthera นับเป็นทรีตเมนต์ที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และมีผลข้างเคียงน้อยมากเมื่อเทียบกับทรีตเมนต์อื่นๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของคนทำด้วย ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงจึงไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายที่เลือกราคาต่ำสุดไว้ก่อน แต่ต้องดูจากหลายองค์ประกอบ เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- ทรีตเมนต์ Ulthera ราคาเริ่มต้นที่ 37,800-97,000 บาท
สามารถสอบถามรายละเอียดหรือปรึกษาเพื่อทำการนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่
โทร. 0 2310 3004, 02 755 1004 หรือ โทร. 1719