วันนี้ (29 ตุลาคม) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกำลังเข้าจับกุมแก๊งแอปพลิเคชันพนันออนไลน์ชาวจีนกว่า 50 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
ชัยวุฒิกล่าวว่า ขอขอบคุณตำรวจทุกฝ่าย ทั้งตำรวจไซเบอร์ ตำรวจนครบาล และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่เร่งรัดกวาดล้างปัญหาอาชญากรรม ทั้งอาชญากรรมออนไลน์และสถานที่อโคจรต่างๆ
ในส่วนของดีอีเอสได้ประชุมติดตามสถานการณ์และหาแนวทางเร่งรัดและแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดแก้ปัญหา โดยเฉพาะการหลอกลวงทางการเงินใน 5 ด้าน ได้แก่
- แก๊ง Call Center
- แชร์ลูกโซ่-ระดมทุนออนไลน์
- การพนันออนไลน์
- บัญชีม้า
- การหลอกหลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์
ชัยวุฒิกล่าวต่อไปว่า คนร้ายมีการปรับรูปแบบและวิธีการหลอกหลวงประชาชนจนมีเหยื่อหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก และมีการจับกุมผู้กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง จากสถิติผู้กระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ. 2565 นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24 ตุลาคม ศาลมีคำสั่งลงโทษผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แล้ว 184 คำสั่ง มี URLs ที่ผิดกฎหมายจำนวน 4,736 URLs
นอกจากนี้ล่าสุดทางตำรวจยังสอบสวนขยายผลกรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ พบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นตัวการในการขายข้อมูลในระบบราชการของประชาชน ซึ่งเรื่องนี้มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ของดีอีเอสโดยตรง ฐานนำข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่นไปขาย มีโทษอาญา จำคุกสูงสุด 1 ปีต่อกรรม หากขายข้อมูล 10 คน ก็จะมีโทษถึง 10 ปี ถ้า 100 คน โทษก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 100 ปี
และยังมีความผิดฐานเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษอาญา จำคุก 2 ปี และหากขายข้อมูลจนทำให้เสียหายเป็นวงกว้างทางสังคม โทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี
จึงขอเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชน บุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคนอื่นๆ ได้ ให้ระวังการกระทำที่ผิดกฎหมาย