วันนี้ (11 ตุลาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน โดยมีสถานที่ตั้งโครงการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 5,116 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปี 2566-2570) โดยขอผูกพันงบประมาณ ดังนี้
- ปีงบประมาณ 2566 วงเงิน 1,291 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 1,656 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 1,476 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 498 ล้านบาท
- ปีงบประมาณ 2570 วงเงิน 193 ล้านบาท
สำหรับโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน จะเป็นสถานที่ผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ แพทย์ทางเลือก และอื่นๆ และเป็นสถานที่ทำการวิจัย พัฒนาด้านวิชาการด้านสาธารณสุข เป็นสถานพยาบาลขั้นตติยภูมิและเฉพาะทางเป็นหลัก โดยสามารถรักษาโรคระดับต้นและโรคซับซ้อน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันและประเทศไทย
โดยการพัฒนาทั้งด้านบุคลากร การวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์จากศูนย์สุขภาพนานาชาติฯ จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในอนาคต สร้างรายได้แก่ประเทศสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอีกด้วย
ไตรศุลีกล่าวต่อไปว่า ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการคือ มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ขนาด 300 เตียง, ให้บริการผู้ป่วยโรคซับซ้อนชาวไทยไม่น้อยกว่า 12,500 คนต่อปี, ผู้ป่วยนอกไม่น้อยกว่า 300,000 คนต่อปี, มีรายได้จากการรักษาชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 1,600 ล้านบาทต่อปี, มีศูนย์ทันตกรรมที่ทันสมัยแห่งแรกในภาคใต้และมีรายได้จากการให้บริการชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อปี
สามารถผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพที่สำเร็จตามหลักสูตรปีละ 110 คน, อบรมทักษะต่างๆ ตามความต้องการของภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 คนต่อปี, ลดการไปรักษาโรคซับซ้อนในพื้นที่อื่นของคนในพื้นที่อันดามันไม่น้อยกว่า 13,500 ครั้งต่อปี ทำให้ประหยัดเงินไม่น้อยกว่า 135 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามันให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาทต่อปี