โพลชี้คนญี่ปุ่นไม่คิดแต่งงานมากขึ้น ผู้ชายเผยอยากได้ภรรยาที่หาเงินเก่ง

ผลการสำรวจจากหน่วยงานรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นไม่คิดที่จะแต่งงานมากขึ้นทั้งหญิงและชาย

สถาบันประชากรและประกันสังคมแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลญี่ปุ่น ได้เปิดเผยผลการสำรวจฉบับหนึ่งที่จัดทำขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า ผู้ชายโสด 17.3% และผู้หญิงโสด 14.6% ที่มีอายุ 18-34 ปีไม่คิดที่จะแต่งงาน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทำผลสำรวจมาในปี 1982

โดยหากมองย้อนกลับไปในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะฟองสบู่ ตัวเลขของคนโสดที่ไม่คิดจะแต่งงานอยู่ที่เพียง 2.3% สำหรับผู้ชาย และ 4.1% สำหรับผู้หญิง

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ แต่มีเหตุปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งรวมถึงแนวคิดของผู้หญิงยุคใหม่ที่ชื่นชอบการทำงานหาเลี้ยงตนเอง ซึ่งมีอิสระกว่าการพึ่งพาสามี โดยพวกเธอเน้นแสวงหาการงานอาชีพที่มั่นคงมากกว่า ส่วนผู้ชายระบุว่าพวกเขาพึงพอใจกับชีวิตโสดเช่นกัน แต่ยอมรับว่าส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ไม่อยากแต่งงานนั้น เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในหน้าที่การงาน และภาระอันหนักอึ้งในการหาเลี้ยงครอบครัว

เมื่อถามจึงแนวคิด ‘ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้หญิง’ ผู้ตอบแบบสอบถามซึ่งเป็นชายโสด 39.4% และหญิงโสด 34% เห็นตรงกันว่า ชีวิตที่สมบูรณ์แบบคือชีวิตที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการเลี้ยงดูลูกได้ โดยมีผู้ชายเพียง 6.8% เท่านั้นที่คิดว่าจะให้ภรรยาอยู่บ้านดูแลครอบครัว

นอกจากนี้ แบบสำรวจยังได้ถามความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นด้วยว่า คุณสมบัติใดที่พวกเขามองหาในตัวคู่ครอง โดยผู้ชาย 48.2% ระบุว่า ‘ความสามารถทางการเงิน’ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจครั้งก่อนถึง 6.3 จุด ส่วนผู้หญิง 70.2% ตอบว่า พวกเธออยากได้คู่ครองที่ทำงานบ้านและเลี้ยงดูลูกเป็น

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นแนวโน้มที่น่าวิตก เพราะจะยิ่งทำให้อัตราของเด็กเกิดใหม่น้อยลงอย่างมาก ท่ามกลางปัญหาสังคมผู้สูงอายุและการขาดแคลนแรงงานของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายหรือนโยบายที่เอื้อให้ผู้หญิงสามารถกลับไปทำงานได้อย่างสะดวกหลังจากที่คลอดบุตรแล้ว รวมถึงแก้ปัญหาชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมญี่ปุ่น

ภาพ: Stanislav Kogiku/SOPA Images/LightRocket via Getty Images

อ้างอิง: