วันนี้ (9 กันยายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหาร กทม. ลงพื้นที่เขตดอนเมือง ซอยช่างอากาศอุทิศ เพื่อติดตามปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่
โดยชัชชาติกล่าวว่า บริเวณพื้นที่ซอยช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ถือเป็นพื้นที่เปราะบางสำหรับน้ำท่วม ก่อนหน้านี้ได้นำระบบระบายน้ำไปติดตั้งคลองเปรมประชากร ทำให้ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาไม่มีปัญหามาก แต่เมื่อคลองเปรมประชากรมีน้ำล้น ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำจากในพื้นที่ออกได้ ดังนั้นคงต้องรอให้ระบบระบายน้ำจากคลองเปรมประชากรออกไปก่อน จึงจะสูบน้ำในเขตดอนเมืองออกไปได้หมด
ซึ่งคลองเปรมประชากรคือจุดที่มีปัญหา เพราะไม่มีเขื่อน และพื้นที่โดยรอบมีบ้านเรือนริมคลองเยอะ ทำให้ไม่สามารถไปขุดลอกคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคลองได้ ซึ่งในระยะยาวคงต้องดำเนินการทำเขื่อน และขุดลอกคลองเพื่อให้สามารถจุน้ำได้ดีขึ้น
ซึ่งสถานการณ์คลองต่างๆ ในขณะนี้ ชัชชาติกล่าวว่าเป็นห่วง 3 คลองหลักของ กทม. คือ คลองลาดพร้าว, คลองเปรมประชากร และคลองประเวศบุรีรมย์ พร้อมยกตัวอย่างคลองลาดพร้าวที่ยังวิกฤตอยู่ เนื่องจากไม่มีประตูระบายน้ำ จึงไม่สามารถสูบน้ำขึ้นไประบายออกที่คลองหกวาสายล่างได้ จึงทำได้แค่บล็อกน้ำไม่ให้เข้ามาเติมในคลองลาดพร้าว
นอกจากนี้ ชัชชาติบอกด้วยว่า น้ำท่วมในปีนี้แตกต่างจากน้ำท่วมปี 2554 เพราะตอนนั้นที่ท่วมเป็นน้ำเหนือที่ปล่อยลงมา แต่ตอนนี้กรุงเทพฯ เจอกับน้ำที่มาจากฝนมากกว่าปกติ
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ความรู้สึกตอนเป็นประชาชนเมื่อถูกน้ำท่วม กับความรู้สึกตอนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ต่างกันอย่างไร ชัชชาติกล่าวว่า ตอนเป็นประชาชนเวลาน้ำท่วมก็จะห่วงแค่บ้านตัวเอง แต่พอมาเป็นผู้ว่าฯ ทำให้รู้สึกเป็นห่วงทุกคน เป็นห่วงกรุงเทพฯ เรามีความรับผิดชอบกว้างขึ้น ความรู้สึกเป็นห่วงก็มากขึ้น และอยากช่วยแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด