รัฐบาลออสเตรเลียออกประกาศเตรียมสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้บ้านจำนวนกว่า 50,000 หลังคาเรือนทางรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่กักเก็บประจุพลังงานของเทสลา เพื่อแปลงสถานะของบ้านแต่ละหลังให้กลายเป็นโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดขนาดยักษ์
รัฐบาลออสเตรเลียออกมาประกาศนโยบายนี้ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยจะสนับสนุนแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถชาร์จพลังงานได้อย่างไม่จำกัดแบบฟรีๆ ให้กับประชาชนรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เพื่อแลกกับการทำรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าส่วนเกินในโครงข่าย และเพื่อหาทางเลือกพลังงานทดแทนสำรอง หลังเมื่อปี 2016 ออสเตรเลียต้องเผชิญวิกฤตพายุถล่มจนทำให้ไฟดับทั้งรัฐมาแล้ว
เจย์ เวเธอร์รีลล์ (Jay Weatherill) ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลรัฐเซาท์ออสเตรเลีย (State Premier) คนปัจจุบันเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ส่งมอบแบตเตอรี่ที่สามารถกักเก็บประจุได้มากที่สุดไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาจึงหันมาให้ความสำคัญกับการเป็นโรงไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“พวกเราจะใช้บ้านของประชาชนในเซาท์ออสเตรเลียช่วยผลิตพลังงานสะอาดให้กับรัฐ และเจ้าของบ้านที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้รับประโยชน์จากบิลค่าไฟที่ถูกลง”
คาดการณ์ว่าโปรเจกต์พลังงานสะอาดนี้จะต้องใช้เงินลงทุนมากถึง 32 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือเกือบประมาณ 798 ล้านบาท (คิดเป็นเงินกู้ยืมจากภาษีกองทุนเทคโนโลยีพลังงานทดแทน 30 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ด้านเทสลาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าโรงไฟฟ้าจำลองรูปแบบนี้ (ใช้การกักเก็บพลังงานจากหลายๆ บ้าน) จะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าในปริมาณที่เทียบเท่ากับโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ (large gas turbine) หรือโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน (coal power plant)
ปัจจุบันรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้กลายเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดของ อีลอน มัสก์ และเทสลาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนของปี 2017 เทสลาเพิ่งจะประสบความสำเร็จในการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเก็บประจุพลังงานทดแทนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 100 เมกะวัตต์ไปหมาดๆ เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการของบ้านเรือนจำนวนกว่า 30,000 หลัง ซึ่งขณะนี้พลังงานไฟฟ้ากว่า 60% ในออสเตรเลียมาจากถ่านหิน ขณะที่อีก 14% มาจากพลังงานทดแทน และคาดว่านโยบายนี้จะเอื้อให้ออสเตรเลียลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินในอนาคตได้อย่างมหาศาล
อ้างอิง:
- AFP