วันนี้ (5 สิงหาคม) ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแล้ว หลังจากที่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ มียอดผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิงสูงกว่า 6,600 รายทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน
การประกาศดังกล่าวเป็นไปเพื่อให้การส่งมอบงบประมาณและเครื่องมือช่วยเหลือรับมือกับโรคฝีดาษลิงภายในสหรัฐฯ คล่องตัวมากยิ่งขึ้น รวมถึงจะช่วยยกระดับการจัดเก็บฐานข้อมูลเกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ซึ่งโรคนี้เริ่มแพร่ระบาดในยุโรป ก่อนที่จะกระจายมายังสหรัฐฯ และประเทศในทวีปอื่นๆ มากยิ่งขึ้น
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) เองก็ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) แล้ว ต่อจากโควิดที่เริ่มแพร่ระบาดเมื่อช่วงปลายปี 2019
ทางการสหรัฐฯ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มติดโรคฝีดาษลิงกว่า 1.6 ล้านรายทั่วประเทศ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) เผยว่า ในปี 2022 มีผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันแล้วกว่า 26,000 รายทั่วโลก
โรคระบาดนี้ตรวจพบครั้งแรกเมื่อปี 1958 และมักระบาดในพื้นที่ห่างไกลของทวีปแอฟริกา มักมีอาการเป็นไข้ ปวดเมื่อย ไม่สบายตัว และมีตุ่มใสขึ้นตามผิวหนัง ใช้ระยะเวลาในการรักษาราว 2-4 สัปดาห์ และน้อยมากที่จะพบผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคฝีดาษลิง
ภาพ: Tatiana Buzmakova / Shutterstock
อ้างอิง:
