เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q65 ของ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ( CRC ) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 15 สิงหาคม 2565
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CRC ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.04%MoM สู่ระดับ 38.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.05%MoM สู่ระดับ 1,589.11 จุด
พรีวิวผลประกอบการ 2Q65:
SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q65 ที่ 1.3 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนสุทธิ 471 ล้านบาทใน 2Q64 และเพิ่มขึ้น 9%QoQ หากไม่มีรายการพิเศษ พบว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 401 ล้านบาทใน 2Q64 และเพิ่มขึ้น 18%QoQ โดยได้แรงหนุนจากยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขายได้ดีขึ้น
โดยสรุปรายการสำคัญใน 2Q65 มีดังนี้
- ยอดขายปลีก คาดว่าจะเติบโต 23%YoY โดยเกิดจากการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม (SSS) และการขยายสาขา โดย SSS (ค่าเฉลี่ยอย่างง่ายแยกตามกลุ่มธุรกิจ) จะเติบโต 22%YoY เพราะไม่มีการปิดทำการบางสาขาอย่างที่เกิดขึ้นในอิตาลีในเดือนเมษายน 2564 และเวียดนามในเดือนมิถุนายน 2564 และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากโควิดมีผลกระทบน้อยลง
เมื่อแยกตามกลุ่มธุรกิจ SSS มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงกว่า 50%YoY ในกลุ่มแฟชั่น, 3%YoY ในกลุ่มฮาร์ดไลน์ และ 15%YoY ในกลุ่มฟู้ด ในขณะที่เมื่อแยกตามประเทศ SSS มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงกว่า 50%YoY ในอิตาลี, 30%YoY ในเวียดนาม และ 15%YoY ในประเทศไทย
- รายได้จากการให้เช่า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 32%YoY เพราะให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง และมีพื้นที่ให้เช่ามากขึ้นจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ท่ามกลางอัตราการเช่าพื้นที่ที่แทบไม่เปลี่ยนแปลง
- อัตรากำไรขั้นต้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 180bpsYoY สู่ 26.8% โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ทั้งในธุรกิจค้าปลีกอันเป็นผลมาจากยอดขายสินค้ากลุ่มแฟชั่นที่ให้มาร์จิ้นสูงฟื้นตัว และการปรับราคาเพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นในกลุ่มฮาร์ดไลน์ และในธุรกิจให้เช่าอันเป็นผลมาจากอัตราค่าเช่าที่ดีขึ้น
- ค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขาย มีแนวโน้มลดลง 280bpsYoY สู่ 29% เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่ายอดขายรวม โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประหยัดต้นทุนค่าสาธารณูปโภคจากการติดตั้งโซลาร์รูฟเพิ่มขึ้นในประเทศไทยและเวียดนาม และต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ยอดขายสาขาเดิม (SSS) เพิ่มขึ้นมากกว่า 40%YoY โดยเติบโตในทุกประเทศและทุกกลุ่มธุรกิจ เมื่อแยกตามประเทศ SSS คาดว่าจะเติบโตสูงกว่า 40%YoY ในประเทศไทยและเวียดนาม (จากฐานต่ำของปีก่อนที่มีสาเหตุมาจากการล็อกดาวน์ โดยที่มีการปิดร้านค้าและพื้นที่ขายสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร และลดชั่วโมงทำการของร้านค้าลง) และ 50%YoY ในอิตาลี (เพิ่มขึ้นจากฐานปกติ)
เมื่อแยกตามกลุ่มธุรกิจ SSS มีแนวโน้มที่จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักระดับสูง YoY ในกลุ่มแฟชั่น mid to high-teen, YoY ในกลุ่มฟู้ด และ high teen YoY ในกลุ่มฮาร์ดไลน์ ด้วยยอดขายปลีกและรายได้จากการให้เช่าที่ฟื้นตัว และมาร์จิ้นที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับการล็อกดาวน์ในปีก่อน
อย่างไรก็ดี SCBS คาดว่าผลประกอบการ 3Q65 จะฟื้นตัว YoY กลับมามีกำไร จากขาดทุนใน 3Q64 แต่จะอ่อนตัวลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และคาดว่า CRC จะรายงานกำไรปกติปี 2565 เติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ ที่ 5.9 พันล้านบาทในปี 2565 เพิ่มขึ้นจาก 190 ล้านบาทในปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ฟื้นตัว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านกำลังซื้อและต้นทุนที่สูงขึ้นจากแรงกดดันเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP