วันนี้ (24 กรกฎาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวในการปิดอบรมหลักสูตร ‘นักการเมืองท้องถิ่นก้าวหน้า’ หรือ ‘Progressive Academy’ ตอนหนึ่งว่า แนวคิดของเราสำหรับการจัดทำหลักสูตรนี้มี 3 เรื่องคือ สร้างคน สร้างองค์ความรู้ และสร้างเครือข่าย เราต้องการพัฒนาผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นอยู่แล้ว ผู้ที่ต้องการลงสมัครเลือกตั้งในอนาคต รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจให้มีความรู้ท้องถิ่นมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นสถาบันที่สำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศ ไม่มีประเทศไหนที่เจริญแล้วที่ท้องถิ่นของเขาอ่อนแอ ดังนั้น ถ้าต้องการสร้างประเทศไทยที่ไม่มีความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท ถ้าต้องการดึงพลังประชาชนจากทุกจังหวัดมาสร้างประเทศให้สวยงามได้ เราต้องมีการเมืองท้องถิ่นที่เข้มแข็ง ซึ่งหลักสูตรนี้เรามองทั้งการเมืองในภาพใหญ่และภาพเล็ก โดยการเมืองในภาพใหญ่คือสิ่งที่เราอยากให้ประเทศไทยเป็น และการเมืองในภาพเล็กคือการพัฒนาบุคลากรที่ดำรงตำแหน่งอยู่แล้ว และอยากดำรงตำแหน่งในอนาคตให้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งเราเชื่อว่าทุกคนจะนำสิ่งที่ได้รับนี้ไปสร้างท้องถิ่นที่เข้มแข็งต่อไป
“คณะก้าวหน้าตั้งใจที่จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญสำหรับสังคม และไม่ใช่แค่หลักสูตรผู้บริหารท้องถิ่นนี้เท่านั้น ในช่วงปลายปีนี้ เราจะมีหลักสูตรพัฒนาผู้นำสหภาพแรงงาน เพราะปีกแรงงานนั้นเป็นกำลังสำคัญที่สนับสนุนพวกเรามาตั้งแต่ครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ทำงานด้วยกันมาอย่างแข็งขัน โดยหลักสูตรนี้จะพุ่งเป้าไปที่ประเด็นสำคัญก็คือ การทำให้พี่น้องแรงงานเข้าใจในเรื่องสิทธิเสรีภาพ และการรวมกลุ่มตั้งองค์กรในสถานประกอบการต่างๆ และอีกหลักสูตรหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยจัดมาแล้วในนามของค่ายเยาชน แต่ก็หยุดพักไปในช่วงสถานการณ์โควิด โดยสิ้นปีนี้เราจะกลับมาจัดใหม่สำหรับหลักสูตรค่ายเยาวขน ทั้งนี้ แน่นอนว่าสิ่งที่เราทำวันนี้อาจจะยังไม่เห็นผลในทันที แต่เป็นการหว่านเมล็ดทิ้งไว้ เพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะได้ผลิดอกออกผล สร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ได้” ธนาธรกล่าว
ทั้งนี้ ในกิจกรรมปิดอบรมดังกล่าว ได้มีการถอดบทเรียนการจัดหลักสูตร โดยผู้เข้าร่วมอบรมได้ร่วมกันสะท้อนเพื่อพัฒนาการจัดหลักสูตรในรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งจะมีขึ้นอีกอย่างแน่นอน และนอกจากธนาธรแล้ว ยังมีกรรมการบริหารคณะก้าวหน้าเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เช่น ชำนาญ จันทร์เรือง, กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ, ไกลก้อง ไวทยการ, เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ รวมถึง พรรณิการ์ วานิช โดยในช่วงท้ายมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ที่ผ่านการอบรมกว่า 60 คนในรุ่นนี้ด้วย