วันนี้ (20 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 4 ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ประเสริฐ จันทรรวงทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงเรื่องทุจริตถุงมือยางภาค 2 พฤติการณ์ของจุรินทร์คือไม่อายัดเงินให้ทันเวลา ทำให้กลุ่มผู้กระทำความผิดและผู้ทุจริตฟอกเงิน 2,000 ล้านบาท โดยกระจายเงินไปตามบัญชีต่างๆ จนไม่สามารถติดตามเงินมาได้
ประเสริฐระบุถึงเส้นทางการทุจริตคือ มีการสั่งซื้อถุงมือยางจากบริษัท 7 แห่ง เป็นเหตุให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ต้องรีบจัดหาถุงมือยาง และรีบไปทำสัญญากับบริษัทแห่งหนึ่งจำนวน 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท และได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน อคส. ยังไม่ได้รับถุงมือยางจากบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด และได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทดังกล่าวแล้ว
เงินจำนวนดังกล่าวยังติดตามเอามาไม่ได้ คนทุจริตยังใช้ชีวิตหรูหรา โดยตนเองได้ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และแจ้งข้อกล่าวหา 22 ราย หนึ่งในนั้นคือประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) แต่จุรินทร์ก็ปล่อยให้ทำหน้าที่จนหมดวาระเพื่อป้องกันไม่ให้ภัยมาถึงตัว จึงอยากตั้งคำถามว่าจุรินทร์เคยทำหนังสือให้ประธาน อคส. เพื่อให้ชี้แจงหรือไม่ ส่งผลทำให้เกิดความเสียหาย 2 เรื่อง คือ เกิดการฟอกเงินจำนวนถึง 2,000 ล้านบาท โดยไม่มีการอายัดเงิน ส่งผลให้มีการกระจายเงินไปยังบุคคลต่างๆ ก้อนแรก 56.33 ล้านบาท ก้อนที่ 2 ยอดเงิน 967.17 ล้านบาท ที่มีการโอนไปยังหลายบริษัททั้งในและต่างประเทศ ก้อนที่ 3 มีการโอนเงินให้บุคคลต่างๆ อย่างมีพิรุธหลายจังหวัด จำนวน 151 ล้านบาท และมีการโอนเงินให้อดีตผู้สื่อข่าวอีก 19 ล้านบาท
อีกทั้งยังสร้างหลักฐานเท็จเรื่องเงินฝากในจังหวัดนครปฐม โดยมีการโอนเงินผ่านหลายธนาคาร ทั้งๆ ที่ไม่มีการชำระค่าหุ้นอย่างแท้จริง ซึ่งถือว่าจุรินทร์และนายกฯ ได้ปล่อยให้ผู้ทุจริตกินหรูอยู่สบาย
ประเสริฐยังอภิปรายต่อไปว่า ตนเองมีหลักฐานเป็นใบเสร็จการโอนเงิน พร้อมเชื่อว่าเงินจำนวนดังกล่าวต้องตกอยู่ในมือผู้มีอิทธิพลทางการเมือง โดยตนเองจะนำหลักฐานดังกล่าวมอบให้ประธาน เพื่อนำไปมอบให้จุรินทร์และนายกฯ พร้อมขอให้ ป.ป.ช. สอบสวนและดำเนินคดีฝ่ายการเมือง และตนเองจะนำข้อมูลใหม่พร้อมเส้นทางการเงินกลุ่มทุจริตไปยื่น ป.ป.ช. อีกครั้ง