ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่าง WTI ปรับตัวลดลง 9% เมื่อวานนี้ (12 กรกฎาคม) แตะระดับ 93.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนที่วันนี้ราคาจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยกลับมาอยู่ที่ 95-96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การปรับตัวลงล่าสุดทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของเดือนมิถุนายนในช่วงค่ำวันนี้ (13 กรกฎาคม) ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขจะออกมาทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง และจะนำไปสู่การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อเนื่อง
ขณะที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้เรียกร้องให้ OPEC เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันในระหว่างที่เดินทางไปเยือนตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม OPEC ได้ออกรายงานแนวโน้มราคาน้ำมันของปี 2023 โดยคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงสูงกว่าการผลิตราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า หากจะปิดช่องว่างนี้ OPEC จำเป็นจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ แต่ประเทศสมาชิกของ OPEC ต่างมีการผลิตต่ำกว่าปริมาณที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากการลงทุนที่ต่ำกว่าแผนและความไม่มั่นคงทางการเมือง
ความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า หนุนจากความต้องการใช้ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ขณะที่ปริมาณการผลิตนอกกลุ่ม OPEC น่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากต้องการทำให้อุปสงค์และอุปทานเข้าสู่จุดสมดุล OPEC จำเป็นจะต้องผลิตน้ำมันเฉลี่ย 30.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งหมายความว่าจะต้องเพิ่มการผลิตรวมอีก 1.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-12/opec-s-first-2023-outlook-shows-no-relief-for-oil-market-squeeze?srnd=markets-vp&sref=CVqPBMVg
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-07-12/oil-extends-losses-after-tumbling-below-100-on-demand-concerns?sref=CVqPBMVg
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP