‘สหรัฐฯ-จีน’ ร่วมถกสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ระบุเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทานโลกเป็นเรื่องสำคัญ

รองนายกรัฐมนตรีจีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ร่วมหารือออนไลน์เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก พร้อมระบุว่ามีความกังวลต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยการหารือกันครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน จากการหารือร่วมกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2021

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) และหัวหน้าฝ่ายจีนในการเจรจาด้านเศรษฐกิจที่ครอบคลุมระหว่างจีน-สหรัฐฯ ได้ประชุมทางออนไลน์กับ เจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐฯ ตามคำร้องขอของฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อหารือร่วมกันในประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่กำลังเผชิญความท้าทายอย่างรุนแรง และมีความน่ากังวลร่วมกันเกี่ยวกับเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานของโลก

ทั้งนี้ การประชุมออนไลน์ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการกลับมาหารือกันครั้งแรกในรอบ 9 เดือน หลังจากการหารือกันครั้งล่าสุดในเดือนตุลาคม 2021

โดย Reuters รายงานว่า เจเน็ต เยลเลน ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมของจีนในการประชุมครั้งนี้ด้วย

ด้านสำนักข่าว Xinhua รายงานว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่สามารถปฏิบัติได้จริงอย่างตรงไปตรงมาในหัวข้อต่างๆ เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาค และเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยการพูดคุยนั้นดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์

ทั้งสองชาติมหาอำนาจคิดเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่รุนแรง การส่งเสริมการสื่อสาร และการประสานงานด้านนโยบายมหภาคระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีความสำคัญอย่างยิ่ง อีกทั้งการร่วมกันรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและอุตสาหกรรมก็อยู่ในความสนใจของทั้งสองประเทศและทั่วโลก

ขณะเดียวกัน จีนแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ รวมถึงยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสำหรับจีน และมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ตลอดจนการปฏิบัติที่เป็นธรรมต่อวิสาหกิจของจีน

ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้สิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม 2021 โดยอัตราภาษีที่กำหนดโดยฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังคงอยู่ในมูลค่าการนำเข้าของจีนมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์

สำนักข่าว Xinhua รายงานเพิ่มว่า ระหว่างการสนทนาอย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม พวกเขาได้หารือเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคและการเงินในสหรัฐฯ และจีน แนวโน้มเศรษฐกิจโลกท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความท้าทายด้านความมั่นคงด้านอาหาร รวมถึงผลกระทบของสงครามรัสเซียกับยูเครนที่มีต่อเศรษฐกิจโลก

โดยทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะดำเนินการสื่อสารระหว่างกันต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ สำนักข่าว CNBC รายงานโดยอ้างอิงจากแถลงการณ์ของจีนว่า จีนให้ความสำคัญของการประสานงานนโยบายมหภาคของทั้งสองประเทศ และการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ถ้อยแถลงยังกล่าวถึงภาษีและมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อจีนด้วย แต่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์

ขณะที่แถลงการณ์ของสหรัฐฯ ระบุถึงการอภิปรายทั่วไปเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการเงินทั้งในและต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงไม่ได้กล่าวถึงภาษีหรือการคว่ำบาตร ขณะที่ไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกจากการทำสงครามกับยูเครนของรัสเซีย

อ้างอิง: