*หมายเหตุ: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ Obi-Wan Kenobi*
หนึ่งในฉากประทับใจจากจักรวาล Star Wars ที่ผู้เขียนได้ชมในวัยเด็กและยังคงตราตรึงใจมาจนถึงตอนนี้ คือฉากดวลดาบไลต์เซเบอร์ระหว่าง Obi-Wan Kenobi (Ewan McGregor) และ Anakin Skywalker (Hayden Christensen) ในภาพยนตร์เรื่อง Star Wars Episode III: Revenge of the Sith (2005) ส่วนตัวเราจึงค่อนข้างเฝ้ารอและคาดหวังกับซีรีส์ Obi-Wan Kenobi อยู่พอสมควรว่าทีมสร้างจะบอกเล่าเรื่องราวของ Obi-Wan และ Anakin ในช่วงเวลาที่เขากลายเป็น Darth Vader ออกมาเป็นอย่างไร รวมถึงฉากการดวลดาบไลต์เซเบอร์ครั้งนี้จะดุเดือดเข้มข้นสมการรอคอยหรือไม่
อย่างที่ทุกคนได้เห็นกันในตัวอย่างว่าเรื่องราวของซีรีส์ Obi-Wan Kenobi ดูเหมือนจะโฟกัสไปที่การหลบหนีเอาชีวิตรอดของ Obi-Wan ที่ถูกตามล่าจากเหล่า Inquisitor และ Darth Vader แต่เมื่อเราได้ชม 2 อีพีแรก สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจคือการที่ผู้กำกับและทีมสร้างเลือกจะหยิบตัวละครเจ้าหญิง Leia Organa (Vivien Lyra Blair) ในวัยเด็กมานำเสนอ เพื่อขยายความให้เราเห็นว่า Leia รู้จักกับ Obi-Wan ในภาค Star Wars Episode IV: A New Hope (1977) ได้อย่างไร
ซึ่งส่วนตัวเราค่อนข้างชอบประเด็นที่ตัวซีรีส์พยายามนำเสนอพอสมควร เพราะนอกจากที่เราจะได้รับชมเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง Leia และ Obi-Wan แล้ว ซีรีส์ยังขยายให้เราเห็นถึงคาแร็กเตอร์ของเจ้าหญิง Leia ที่ฉลาดหลักแหลมและมีความกล้าหาญตั้งแต่ยังเป็นวัยเยาว์ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกันซีรีส์ก็พาเราไปสำรวจแง่มุมความรู้สึกของ Obi-Wan ที่รับบทโดย Ewan McGregor ได้อย่างครบถ้วนทุกมิติ ทั้งช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุด ช่วงเวลาที่เขาได้ทบทวนถึงอดีตอันเจ็บปวดผ่านบทสนทนาระหว่างเขาและ Leia ไปจนถึงภารกิจปกป้อง Leia ที่ค่อยๆ ทำให้เขากลับมามีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับ Darth Vader อีกครั้ง
อีกหนึ่งตัวละครที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นคือ Darth Vader ที่ได้ Hayden Christensen กลับมาสวมบทบาท ซึ่งจุดนี้เราต้องขอชื่นชมผู้กำกับและทีมสร้างในการวางจังหวะจะโคนและสร้างสรรค์ฉากที่ Darth Vader ปรากฏตัวออกมาได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะฉากทำร้ายผู้คนในหมู่บ้านเพื่อล่อให้ Obi-Wan ปรากฏตัว ที่แม้จะเป็นฉากสั้นๆ และแทบไม่มีบทสนทนาเลย แต่ผู้กำกับก็นำเสนอฉากดังกล่าวให้ผู้ชมเห็นถึงพลังอำนาจ Darth Vader และความเคียดแค้นที่เขามีต่อ Obi-Wan ออกมาได้อย่างทรงพลัง
ส่วนฉากดวลดาบไลต์เซเบอร์ทั้งในช่วงกลางเรื่องและอีพีสุดท้าย ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างพอใจและสมการรอคอยทีเดียว มันอาจจะไม่ได้ดูหวือหวาหรือยิ่งใหญ่อะไรมากนัก แต่ด้วยมู้ดแอนด์โทนที่ขุ่นมัว การดวลดาบอันดุดัน ไปจนถึงบทสนทนาสุดท้ายของทั้งคู่ที่เปี่ยมไปด้วยมวลความรู้สึก กลับยิ่งเสริมให้การเผชิญหน้าของ Obi-Wan และ Darth Vader เปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังจริงๆ
ตัดสลับมาที่จุดด้อยของซีรีส์กันบ้าง ในเรื่องของการนำเสนอสถานการณ์และการกระทำของตัวละครในหลายๆ ฉากที่ดูจะไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร ส่วนตัวผู้เขียนเองก็รู้สึกติดขัดกับจุดด้อยข้อนี้อยู่เช่นกัน แต่อาจจะไม่ติดถึงขั้นว่าแย่จนรับไม่ได้ เพราะอย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้นว่าตัวซีรีส์ค่อนข้างนำเสนอฉากแอ็กชันและเรื่องราวของตัวละครหลักออกมาได้ค่อนข้างดี จุดเด่นข้อนี้จึงเข้ามาช่วยเสริมจุดด้อยดังกล่าวให้เราได้พอสมควร
ส่วนเรื่องราวของ Inquisitor Reva หรือภคินีที่สาม ที่รับบทโดย Moses Ingram เราคิดว่าผู้กำกับและทีมสร้างดูจะยังนำเสนอเรื่องราวของเธอให้เราทำความรู้จักได้ไม่น่าสนใจเท่าไร อาจเพราะด้วยความที่ซีรีส์มีเส้นเรื่องหลักที่จำเป็นต้องเล่าค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ทั้งปมปัญหาของ Obi-Wan ที่เขาต้องเผชิญ ภารกิจของ Obi-Wan ที่ต้องช่วยเหลือ Leia เรื่องราวระหว่าง Obi-Wan และ Darth Vader ไปจนถึงตัวละครสมทบอื่นๆ ที่แทรกเข้ามาระหว่างทาง
มันจึงทำให้ผู้กำกับและทีมสร้างต้องหาช่องทางและเวลาในการนำเสนอเรื่องราวของ Reva (ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของซีรีส์) ให้ออกมาน่าสนใจค่อนข้างยาก และนั่นจึงส่งผลให้ Reva กลายเป็นตัวละครที่ดูเรียบแบนและไม่มีมิติให้เราได้สำรวจเท่าไรนักเมื่อเทียบกับตัวละครหลักอื่นๆ อีกทั้งยังส่งผลให้บทสรุปของเธอในอีพีสุดท้ายดูไม่น่าจดจำอย่างที่ควรจะเป็นอีกด้วย
แม้ว่าระหว่างทางจะมีจุดที่ติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง แต่ในภาพรวมแล้วเราคิดว่า Obi-Wan Kenobi ถือเป็นซีรีส์จากจักรวาล Star Wars ที่พาเราไปสำรวจเรื่องราวและมวลความรู้สึกของ Obi-Wan ได้อย่างน่าสนใจ มีการใส่ฉากและบทสนทนาที่ทำให้เราได้หวนคิดถึงเรื่องราวในภาคเก่าๆ ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชันที่ดุดันและทรงพลังสมการรอคอยจริงๆ
สามารถรับชมซีรีส์ Obi-Wan Kenobi ทั้ง 6 อีพีได้แล้วทาง Disney+ Hotstar
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่