วานนี้ (18 มิถุนายน) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเตือนพลเมืองอเมริกันเลี่ยงเดินทางไปยังยูเครนในช่วงเวลานี้ หลังทางการสหรัฐฯ มีรายงานชาวอเมริกันหายตัวไปแล้ว 3 ราย หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยังยูเครน ขณะที่ประเทศดังกล่าวกำลังเผชิญหน้ากับสงครามรุกรานจากกองทัพรัสเซีย
โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พลเมืองอเมริกัน 2 รายแรกที่หายตัวไปขณะอยู่ในยูเครนคือ อเล็กซานเดอร์ จอห์น-โรเบิร์ต ดรูเก้ วัย 39 ปี จากเมืองทัสคาลูซา รัฐแอละแบมา และ แอนดี้ ไต ง็อก ฮุยน์ จากเมืองฮาร์ตเซลล์ รัฐแอละแบมา ทั้งสองหายตัวไปนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ทางด้านครอบครัวของทั้งสองชี้ มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจถูกกองกำลังทหารรัสเซียจับกุมตัวอยู่ เนื่องจากทั้งสองรายเคยช่วยกองกำลังยูเครนสู้รบกับกองทัพรัสเซียในสมรภูมิทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ
ขณะที่ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พลเมืองรายที่ 3 ที่หายตัวไปในยูเครนคือ เกรดี้ คูร์พาซี อดีตทหารผ่านศึกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เคยรับใช้ชาติมานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะเกษียณอายุเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยคนใกล้ชิดของคูร์พาซีเผยว่า เขาตัดสินใจที่จะเข้าช่วยกองทัพยูเครนสู้รบในสงครามครั้งนี้
ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ ได้ประสานความร่วมมือกับทางการยูเครนและกาชาดสากลแล้ว โดยครอบครัวของดรูเก้เผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ดรูเก้รวมถึงฮุยน์จะถูกจับกุมตัวโดยกองทัพรัสเซีย หลังพบหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่คาดว่าอาจจะเป็นเขาทั้งสองราย แต่ยังต้องรอการยืนยันข้อมูลดังกล่าวอีกครั้งจากทางการสหรัฐฯ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เน้นย้ำ “พลเมืองอเมริกันไม่ควรเดินทางไปยังยูเครนในเวลานี้ เนื่องจากมีสงครามความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน และแนะให้พลเมืองอเมริกันที่อยู่ในยูเครนขณะนี้ควรเดินทางออกจากประเทศดังกล่าวในทันที หากมีความปลอดภัยในการใช้การขนส่งทั้งเชิงพาณิชย์และช่องทางการเดินทางส่วนบุคคลอื่นๆ”
ภาพ: Nicholas Kamm / AFP
อ้างอิง: