หลังจากที่มองดูทีมอื่นปรับทัพเสริมทีมกันอย่างสนุกสนานในช่วงที่ผ่านมา ในที่สุดทีม ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอลก็เตรียมขยับตัวแบบจริงจังเป็นครั้งแรกในช่วงตลาดการซื้อขายฤดูร้อน และเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าตื่นเต้นด้วย
โดยมีรายงานจากหลายสำนักข่าวในอังกฤษระบุตรงกันว่าอาร์เซนอลใกล้คว้าตัว กาเบรียล เชซุส กองหน้าทีมชาติบราซิลมาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคา 50 ล้านปอนด์ ซึ่งถ้าหากเป็นจริงตามข่าวก็นับว่าเป็นการเสริมทัพที่ดุดันและกร้าวใจอย่างยิ่งสำหรับทีมกันเนอร์ส
นั่นเพราะหากมองกันตามเนื้อผ้าแล้วการย้ายทีมครั้งนี้แทบเป็นไปไม่ได้ทางความรู้สึก
อย่างแรกเชซุสนั้นอยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่กวาดแชมป์ทุกปีภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และการันตีโอกาสในการเล่นรายการที่ทุกคนปรารถนาอย่างยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
อย่างต่อมาอาร์เซนอลเองแม้จะเริ่มทำท่าว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2021/22 แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็พลาด และเป็นการพลาดอย่างร้ายแรงด้วยในการปล่อยให้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ คู่ปรับร่วมลอนดอนตอนเหนือแซงเข้าป้ายคว้าอันดับ 4 และได้สิทธิ์ไปแชมเปียนส์ลีก
การที่เชซุสจะย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลนั้น หากมองในมุมทั่วไปจึงอาจจะไม่สมเหตุสมผลนัก
เพียงแต่หากพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะพบว่าดีลครั้งนี้นั้นก็มีความสมเหตุสมผลในตัวของมันเอง โดยอย่างแรกที่สำคัญที่สุดคือ เชซุสต้องการความท้าทายใหม่ในการเล่นหลังย้ายจากพัลไมรัสมาอยู่ที่เอติฮัด สเตเดียม ตั้งแต่ปี 2017
5 ปีที่ผ่านมา เชซุสประสบความสำเร็จพอประมาณ แต่ปัญหาคือเขาไม่สามารถแจ้งเกิดเพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนหน้าในทีมของกวาร์ดิโอลาได้ ซึ่งแม้จะพอเข้าใจได้ เพราะแมนฯ ซิตี้นั้นอุดมไปด้วยสตาร์เต็มไปหมด และไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เป็นตัวจริงเสมอ แต่สิ่งที่เป็นจุดตัดสินได้คือในเกมสำคัญเขามักจะไม่ใช่คนที่นายใหญ่ชาวสเปนคิดถึงเป็นคนแรก
แม้กระทั่งในช่วงที่ เซร์คิโอ อเกวโร อดีตศูนย์หน้าตัวเก๋าบาดเจ็บ และทำให้แดนหน้ามีปัญหาในช่วงต้นฤดูกาล 2020/21 แต่เมื่อเชซุสไม่สามารถทำให้กวาร์ดิโอลามั่นใจได้ ตำแหน่งศูนย์หน้าในทีมจึงถูกเปลี่ยนเป็นบทบาทของ False Nine ที่สลับเอานักเตะหลายคนมายืน
เชซุสเพิ่งจะกลับมามีบทบาทมากขึ้นในช่วงปลายฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา และก็ไม่ใช่ในบทกองหน้าด้วย แต่เป็นตำแหน่งปีกขวา ซึ่งถือว่าเขาทำได้ดี
ความรู้สึกที่อยากพิสูจน์ตัวเองว่าเขาสามารถเป็นตัวจริงของทีมได้จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ดาวยิงวัย 25 ปีรายนี้ต้องการที่จะย้ายออกจากแมนฯ ซิตี้ ซึ่งในฤดูกาลนี้ได้เสริมแนวรุกเข้ามาอีก 2 คนด้วยกันคือ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ และ ฮูเลียน อัลวาเรซ ที่อาจหมายถึงโอกาสในการลงสนามที่น้อยลงของเชซุสด้วย
ดังนั้นเมื่อสัญญาเหลือแค่ปีเดียว นี่คือโอกาสดีที่สุดที่เชซุสจะถือไพ่เหนือกว่าสโมสรในการขอย้ายออกจากทีม และแมนฯ ซิตี้ก็ไม่อยากจะเสียนักเตะไปฟรีๆ ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้แม้ข้อเสนอแรก 30 ล้านปอนด์จะถูกปฏิเสธไปแล้ว แต่เชื่อว่าอาร์เซนอลยินดีที่จะปรับข้อเสนอเพิ่มให้ตามที่แมนฯ ซิตี้ต้องการ และคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการย้ายทีมแต่อย่างใด
ทำไมต้องเป็นอาร์เซนอล?
สำหรับนักฟุตบอลแล้วการย้ายทีมหากไม่ใช่เพื่อเกียรติยศหรือลุ้นความสำเร็จและเงินทองแล้ว สิ่งที่จะเป็นแรงดึงดูดได้คือคนที่จะทำงานด้วย
อาร์เซนอลโชคดีที่เขามี มิเกล อาร์เตตา นายใหญ่ชาวสเปนที่เป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาก่อน และคุ้นเคยกับเชซุสเป็นอย่างดีตลอดช่วงเวลาที่ได้ร่วมงานกันที่เอติฮัด สเตเดียม ซึ่งเรื่องนี้มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อโอกาสในการได้ตัวดาวยิงบราซิลมาร่วมทีม
ทีมจากลอนดอนยังมี เอดู ผู้อำนวยการสโมสรชาวบราซิล และในทีมเองก็มีนักเตะบราซิลด้วยกันอย่าง กาเบรียล มาร์กัลเญส และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ด้วย
เชซุสยังมองเห็นโอกาสการเติบโตภายในทีมที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่น่าสนใจในช่วงฤดูกาลที่แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มนักเตะอนาคตไกลอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด, บูกาโย ซากา, เอมิล สมิธ โรว์, มาร์ติเนลลี, เบน ไวท์ และ อารอน แรมส์เดล ซึ่งเขาน่าจะสามารถเข้ามาเติมเต็มทีมนี้ได้อย่างดี
เพราะอาร์เซนอลเพิ่งจะเสีย อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ กองหน้าประสบการณ์สูงที่หมดสัญญาและย้ายกลับไปโอลิมปิก ลียง ทำให้หากเขาย้ายมาโอกาสจะยึดตำแหน่งศูนย์หน้าตัวจริงจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง เพราะคู่แข่งอย่าง เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ นั้นยังเด็กเกินไปแม้จะทำได้ดีในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม
โอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงในทีมที่มีผู้จัดการทีมที่คุ้นเคยและเชื่อใจกันเป็นอย่างดี แค่นี้ก็นับว่ามากพอแล้ว
เชซุสจะเล่นตรงไหนให้อาร์เซนอล?
แม้จะไม่สามารถแจ้งเกิดในทีมแมนฯ ซิตี้ได้ในบทศูนย์หน้าแต่ที่อาร์เซนอล บทบาทที่อาร์เตตาหมายมั่นปั้นมือสำหรับเชซุสย่อมหนีไม่พ้นการเป็นศูนย์หน้า ‘หมายเลข 9’ ในระบบ 4-2-3-1 อย่างแน่นอน
ที่ผ่านมาเชซุสแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเล่นตรงไหนก็ได้ในแนวรุก แม้ว่าจะทำได้ดีเป็นพิเศษในตำแหน่งทางกราบขวาก็ตาม แต่โดยธรรมชาติแล้วเขาคือศูนย์หน้าที่มีความรวดเร็ว ปราดเปรียว เทคนิคการเล่นสูง และมีสัญชาตญาณในการล่าตาข่ายที่ใช้ได้
ในฤดูกาลที่แล้วแม้จะได้โอกาสไม่มากนักแต่ก็ยิงไป 13 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ (และครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้มาจากช่วง 7 นัดสุดท้ายของฤดูกาล) ซึ่งนั่นหมายถึงจำนวนค่าเฉลี่ย ‘การมีส่วนร่วมกับประตู’ ที่อาร์เซนอลสามารถคาดหวังได้
นอกจากนี้เราอาจได้เห็นการเขย่าแท็กติกด้วยการปรับมาใช้ศูนย์หน้าคู่กับมาร์ติเนลลีได้เช่นกัน ซึ่งจะกลายเป็นคู่หัวหอกแดนแซมบ้าที่ลีลาการเล่นหาตัวจับได้ยากทั้งคู่ และแค่คิดน่าตื่นเต้นไม่น้อย
อาร์เซนอลจะซื้อใครอีก?
นอกเหนือจากเชซุสแล้วอีกรายที่แฟนกูนเนอร์สแอบลุ้นมาตลอดคือ ยูริ ตีเลอมองส์ กองกลางมันสมองของเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเคยเป็นที่หมายปองของหลายสโมสรใหญ่แต่ในฤดูกาลนี้คาดว่าจะสามารถย้ายทีมได้ด้วยสนนราคาแค่ 25 ล้านปอนด์เท่านั้น เนื่องจากเหลือสัญญาแค่ปีเดียว ขณะที่เป้าหมายอื่นๆ ในแดนกลางอาจจะหมดหวังทั้ง วิตินญา กองกลางปอร์โตที่คาดว่าจะไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อีฟส์ บิสซูมา ที่สเปอร์สกำลังจะได้ตัว
แต่ข่าวล่ามาแรงในเวลานี้ระบุว่านักเตะที่อาร์เซนอลกำลังจะได้ตัวจริงๆ คือ ฟาบิโอ วิเอรา อีกหนึ่งกองกลางจากเอฟซี ปอร์โต วัย 22 ปี ที่มีข่าวว่าใกล้บรรลุข้อตกลงที่ค่าตัว 40 ล้านยูโร และจะเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปีด้วยกัน
วิเอราลงสนามให้กับปอร์โต 39 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา ทำได้ 7 ประตู กับอีก 16 แอสซิสต์ โดยสามารถเล่นได้ทั้งบท ‘False Nine’ หรือกองกลางตัวกลางก็ได้ และเป็นตัวหลักของทีมชาติโปรตุเกสชุดอายุตำ่กว่า 21 ปี ที่ มิเกล อาร์เตตา ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว จนผลักดันให้เกิดการย้ายทีมขึ้น
ส่วนที่มีข่าวรายอื่นๆ ได้แก่ ราฟินญา ปีกสตาร์ทีมชาติบราซิลของลีดส์ ยูไนเต็ด ที่อาจพลาดโอกาสย้ายไปบาร์เซโลนาที่ยังประสบปัญหาทางการเงิน, ฟาเบียน รูอิซ กองกลางนาโปลีที่ต้องการย้ายออกจากทีม, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก แบ็กซ้ายแมนฯ ซิตี้อีกราย และ จานลูกา สคามัคกา กองหน้าจากซาสซูโอโล
อ้างอิง: