กลุ่มโอเปกพลัสบรรลุข้อตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของตนขึ้นอีก 6.84 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมนี้ ซึ่งปริมาณดังกล่าวคิดเป็น 0.7% ของความต้องการจากทั่วโลก และเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นจากแผนเดิมของกลุ่มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเพียงจำนวน 4.32 แสนบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า การเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสในครั้งนี้ เกิดจากแรงกดดันของรัฐบาลในหลายประเทศรวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โจ ไบเดน ที่กำลังเผชิญกับต้นทุนราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากกำลังการผลิตน้ำมันของโลกต้องหายไปราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
Karine Jean-Pierre โฆษกทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อท่าทีของกลุ่มโอเปกพลัส โดยขอบคุณซาอุดีอาระเบียในฐานะประธานกลุ่มที่ผลักดันจนมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ จะเดินหน้าใช้เครื่องมือที่มีอยู่เพื่อดูแลปัญหาราคาพลังงานต่อไป
อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มโอเปกพลัสจะบรรลุข้อตกลงดังกล่าว แต่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเมื่อคืนที่ผ่านมา (2 มิถุนายน) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ระดับ 116.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบแบรนต์ทะเลเหนือขยับขึ้น 1.14% มาอยู่ที่ 117.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่า แม้กลุ่มโอเปกพลัสจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวแล้ว แต่ความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงจะยังมีอยู่ต่อไป เนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นยังไม่สามารถชดเชยอุปทานจากรัสเซียที่หดหายไปถึงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ทั้งหมด
อ้างอิง: