‘Fed’ เผยรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนภาพการเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่เงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พบในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั่วสหรัฐฯ มองเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียง ‘เล็กน้อย’ เท่านั้น สวนทางกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงขยับขึ้นสูง

รายงาน Beige Book ของ Fed ระบุอีกว่า ขณะที่การเติบโตในพื้นที่สาขาของ Fed ทั้ง 12 แห่งในสหรัฐฯ มีสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีอย่างน้อย 4 เขตที่แสดงให้เห็นว่า ‘อัตราการเติบโตได้ชะลอตัว’ ในช่วงกลางเดือนเมษายนถึงประมาณวันที่ 22 พฤษภาคม

นอกเหนือจากมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจแล้ว รายงานยังระบุว่าเขตพื้นที่ส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่ ‘แข็งแกร่ง’ ขณะที่สองเขตพื้นที่สาขา Fed กล่าวว่า “อัตราเงินเฟ้อที่ขยับขึ้นอย่างรวดเร็วยังคงเป็นกระแสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ขณะที่อีก 3 เขตสาขาของ Fed เห็นว่า อัตราการขยับของตัวเลขเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ในระดับปานกลาง

ขณะเดียวกัน ประมาณครึ่งหนึ่งของเขตต่างๆ ของ Fed รายงานว่าบริษัทต่างๆ เริ่มถ่ายโอนภาระต้นทุนแพงขึ้นไปยังผู้บริโภคบ้างแล้ว และทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคชาวอเมริกันตอบรับด้วยการซื้อในปริมาณที่น้อยลง หรือหาสินค้าราคาถูกกว่ามาทดแทน

รายงาน Fed ระบุว่า สถานการณ์ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มไม่สดใส เนื่องจากแวดล้อมด้วยปัจจัยท้าทายและความไม่แน่นอนมากมาย ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และการหยุดชะงักจากกรณีของโรคโควิด (โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ที่ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจและครัวเรือนชาวอเมริกันทั้งหลาย

ด้าน เจมี ไดมอน ซีอีโอของ JPMorgan Chase เตือนถึงวันที่มืดมนกว่าในภายหน้า โดยแนะนำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุน ‘เตรียมพร้อม’ กับหลายๆ ปัจจัยที่มาบรรจบกัน

ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลที่สุดในมุมมองของไดมอนคือ การที่ Fed เริ่มโครงการลดสินทรัพย์มูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ที่ถืออยู่ในงบดุล ซึ่งเป็นกระบวนการที่รบกวนตลาด และทำให้เกิดความกังวลเรื่องการเติบโตเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2017-2019

วันเดียวกัน Beige Book ยังได้ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานได้ขยับเพิ่มขึ้น ‘เล็กน้อยหรือปานกลาง’ ในทุกเขต แม้ว่าจะมีรายงานบางฉบับเกี่ยวกับการว่าจ้างที่ช้าลงหรือหยุดนิ่ง

“อย่างไรก็ตาม ปัญหาการขาดแคลนแรงงานยังคงบีบให้บริษัทจำนวนมากต้องดำเนินการตามขีดความสามารถที่ไม่เพียงพอในการตอบสนอง บริษัทต่างๆ ยังคงปรับใช้ระบบอัตโนมัติ ให้ความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น และเพิ่มค่าจ้าง” รายงาน Fed ระบุ

อ้างอิง: