อัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมในยูโรโซนไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 และทำระดับสูงสุดครั้งใหม่อีกครั้ง โดยสาเหตุหลักมาจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ Goldman Sachs คาดธนาคารกลางยุโรปเริ่มเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสถิติของยุโรปรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อของยุโรปในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 8.1% ซึ่งสูงกว่าสถิติเงินเฟ้อสูงสุดในประวัติการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ระดับ 7.4% และสูงกว่าที่ถูกคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.8%
ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นนี้มาจากเงินเฟ้อหลายประเทศในยุโรปที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เยอรมนีได้รายงานตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคมที่ระดับ 8.7% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8% และสูงกว่าเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่อยู่ระดับ 7.8%
เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อของฝรั่งเศสที่สูงกว่าคาดการณ์ โดยเดือนพฤษภาคมอัตราเงินเฟ้อฝรั่งเศสอยู่ที่ 5.8% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อในเดือนเมษายนที่อยู่ในระดับ 5.4% ส่วนสเปนเงินเฟ้อก็เพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ในเดือนพฤษภาคม สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%
ปรากฏการณ์เงินเฟ้อที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั่วยุโรปเช่นนี้ มีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นถึง 39.2% (เพิ่มขึ้นจาก 37.5% ในเดือนเมษายน) และราคาอาหาร แอลกอฮอล์ และยาสูบ ที่เพิ่มขึ้น 7.5% (เพิ่มขึ้นจาก 6.3%)
ทั้งนี้ หากไม่นับรวมต้นทุนราคาพลังงานและราคาอาหาร อัตราเงินเฟ้อยุโรปก็ยังคงเพิ่มขึ้นจาก 3.5% เป็น 3.8%
สภาวการณ์เงินเฟ้อระดับสูงได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาจากสงครามในยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนด้านอาหารและพลังงาน เนื่องจากการส่งออกถูกสกัดกั้น และประเทศต่างๆ ทั่วตะวันตกพยายามลดการพึ่งพาก๊าซของรัสเซีย ล่าสุดบรรดาผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องต้องกันว่าจะแบนการบริโภคน้ำมันดิบจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปี ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น
ชาร์ลส์ มิเชล ประธานสภายุโรป กล่าวว่า การแบนน้ำมันดิบจากรัสเซียจะกระทบต่อการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียถึง 75% ทันที
อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ในยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ด้วย สร้างความกังวลให้กับธนาคารกลางหลายแห่ง ซึ่งกำลังพยายามปรับสมดุลระหว่างความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า แบงก์ชาติกำลังพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของธนาคารกลางในเดือนกรกฎาคม
“จากแนวโน้มในปัจจุบัน เราน่าจะหลุดจากยุคอัตราดอกเบี้ยติดลบภายในสิ้นไตรมาส 3 หากเศรษฐกิจในยุโรปร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลมาจากความต้องการที่ถูกอั้นไว้ ก็สมเหตุสมผลแล้วที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเพิ่มขึ้นตามลำดับ” ลาการ์ดกล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB มีกำหนดประชุมในวันที่ 9 มิถุนายน และ 21 กรกฎาคมนี้ โดยจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน และส่งสัญญาณให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ด้าน จารี สเตห์น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของ Goldman Sachs กล่าวกับ CNBC ว่า คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของ ECB จะปรับขึ้น 0.25% ในการประชุมแต่ละครั้งในปีหน้า โดยปรับขึ้นจาก -0.5% ในปัจจุบัน เป็น 1.5% ในเดือนมิถุนายน 2023 โดย Goldman Sachs คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในยุโรปจะสูงสุดที่ 9% ในเดือนกันยายน
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2022/05/31/euro-zone-inflation-hits-yet-another-record-high-as-food-and-energy-prices-soar.html
- https://www.ft.com/content/ea6597bf-9bcd-414a-959c-6806f7c65fab
- https://www.reuters.com/markets/europe/euro-zone-inflation-hits-new-record-adding-case-big-ecb-rate-hikes-2022-05-31/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP