วันนี้ (29 พฤษภาคม) เวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ลำผักชี ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.), ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตหนองจอก ซึ่งไม่ยอมเก็บป้ายหาเสียงของตนเองออกจากพื้นที่สาธารณะตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดภายใน 3 วันหลังจากเลือกตั้ง อันถือได้ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน และมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ. 2535
ทั้งนี้ ภายหลังผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา กกต.กทม. ได้แจ้งแล้วว่าได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก. ทุกคนแล้ว ให้ดำเนินการเก็บป้ายหาเสียงของตัวเองออกจากพื้นที่สาธารณะทุกจุดภายใน 3 วันหลังการเลือกตั้ง หากไม่ดำเนินการเก็บจะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ความสะอาดในพื้นที่สาธารณะ และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะทันทีที่การเลือกตั้งสิ้นสุดลง กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ได้คุ้มครองป้ายหาเสียงเหล่านั้นแล้ว
แต่ปรากฏว่าบริเวณพื้นที่ริมถนนสุวินทวงศ์ เขตหนองจอก ยังปรากฏป้ายหาเสียงของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อื่นๆ อีกหลายคนที่ปล่อยทิ้งขวาง ไม่ยอมจัดเก็บตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็นป้ายของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ น.ต. ศิธา ทิวารี นอกจากนั้นยังมีป้ายของผู้สมัคร ส.ก. เขตหนองจอกและเขตมีนบุรีอีกหลายคนที่ยังไม่ยอมเก็บป้ายหาเสียงของตนด้วยเช่นกัน เช่น มังกร ศิริศรีโพธิ์ พรรคไทยสร้างไทย, ณัฐิดา เตาเฟ็ส พรรคประชาธิปัตย์, ไพฑูรย์ อิสระเสรีพงษ์ และ วิรัตน์ มีนชัยนันท์ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
การกระทำดังกล่าวของผู้สมัครทั้งหมดจึงมีความผิดตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นโทษทางอาญา
นอกจากนั้นยังเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ฐานขัดคำสั่งของเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ศรีสุวรรณระบุว่า สมาคมฯ จึงนำพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้สมัครทั้งหมดต่อ สน.ลำผักชี ในวันนี้ และตามด้วย สน.สุวินทวงศ์ และ สน.มีนบุรี ด้วย โดยวันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. จะนำความนี้ไปร้องต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนไต่สวนและเอาผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ด้วย ซึ่งอาจนำไปสู่การให้ใบเหลืองผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งได้อีกด้วย
อ้างอิง:
