‘อีลอน มัสก์’ ได้ออกวิจารณ์ Apple และ App Store ว่าเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากนักพัฒนาแอปนั้นเป็นเหมือน ‘ภาษีการใช้อินเทอร์เน็ต’ และสูงกว่าความเป็นจริง 10 เท่า ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านั้น “ไม่ยุติธรรมอย่างแน่นอน” มัสก์กล่าวในทวีต
คำวิจารณ์ของมัสก์เกิดขึ้นหลังเกิดการร้องเรียนจากหน่วยงานกำกับดูแลของยุโรปที่กล่าวว่า Apple ‘ใช้’ ตำแหน่งผู้นำทางการตลาดของตนในทางที่ผิด เพื่อยับยั้งการแข่งขันสำหรับระบบการชำระเงินผ่านมือถือของ Apple Pay
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 15-30% แล้ว Apple ยอมให้แอปฯ ที่อยู่ใน App Store ส่งอีเมลถึงลูกค้าแนะนำ ‘ช่องทางอื่น’ สำหรับชำระเงินได้
- Apple ฟันรายได้จาก App Store ปี 2020 รวม 1.92 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้น 28%
PayPal Holdings, Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเก่าที่มัสก์เคยก่อตั้ง มีบทบาทสำคัญในการฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีกับ Apple หลังจากที่พวกเขาแจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับระบบการชำระเงินของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับคณะกรรมาธิการยุโรป
สำหรับการเก็บค่าธรรมเนียม 30% นั้นจะถูกเรียบเก็บจากบริษัทที่มีรายได้จาก App Store มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
CNBC ได้เปิดเผยบทวิเคราะห์และคาดการณ์ว่า ตลอดทั้งปี 2020 Apple มีรายได้จาก App Store แพลตฟอร์มดาวน์โหลดแอปในระบบ iOS รวมมากกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.92 ล้านล้านบาท
การที่ Apple สามารถกอบโกยรายได้มหาศาลจากช่องทาง App Store เช่นนี้ ก็นับเป็นอีกหนึ่งในประเด็นให้พวกเขาถูกนักวิจารณ์และเหล่านักพัฒนาตำหนิอย่างหนักถึงแนวทางการหักส่วนแบ่งรายได้จากการพัฒนาเหล่านั้น แม้ต่อมาสัดส่วนที่หักจะลดลงเหลือ 15% สำหรับบริษัทที่มีรายได้จาก App Store น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
ในช่วงปลางปีที่ผ่านมา Apple ได้ยอมที่จะเปิดทางให้นักพัฒนาแอปสามารถส่งอีเมลถึงลูกค้าเกี่ยวกับทางเลือกในการเรียกเก็บเงิน นอกเหนือจากจ่ายผ่าน App Store เพียงช่องทางเดียวอย่างที่เคยเป็นมา
อ้างอิง: