×

GFPT – แนวโน้มผลประกอบการ 1Q65 คาดกำไรโตโดดเด่นและดีที่สุดในกลุ่มอาหาร

21.04.2022
  • LOADING...
GFPT

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q65 ของ บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 12 พฤษภาคม 2565

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น GFPT ปรับเพิ่มขึ้น 10%MoM สู่ระดับ 13.50 บาท ขณะที่ SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 1.0%MoM สู่ระดับ 1,690.00 จุด 

 

พรีวิวผลประกอบการ 1Q65:

SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 61 ล้านบาทใน 1Q64 และ 54 ล้านบาทใน 4Q64 หากตัดรายการพิเศษออกไป พบว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 40 ล้านบาทใน 1Q64 และ 14 ล้านบาทใน 4Q64 โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายที่ดีขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น และส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด (GFN)

 

สำหรับรายการสำคัญใน 1Q65 มีดังนี้

 

  1. ยอดขาย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสู่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%YoY และ 8%QoQ หลักๆ เกิดจากปริมาณการขายส่งออกโดยตรงที่ดีขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์ส่งออกและในประเทศที่สูงขึ้น โดยคาดว่าปริมาณการขายส่งออกโดยตรงของ GFPT จะอยู่ที่ 7,500 ตัน (เพิ่มขึ้น 36%YoY แต่ทรงตัว QoQ) เติบโตมากกว่าปริมาณการส่งออกไก่เนื้อไทย (เพิ่มขึ้น 8%YoY ใน 2M65) 

 

ซึ่งเกิดจากการผลิตจากเครื่องจักรใหม่ (เริ่มเดินเครื่องผลิตในเดือนกันยายน 2564) เพื่อรองรับคำสั่งซื้อเพิ่มจากญี่ปุ่นและยุโรป โดยประเมินอัตราการใช้กำลังการผลิตใน 1Q65 สำหรับสายการผลิตที่โรงงานแปรรูปปรุงสุกของ GFPT ได้ที่ 80% สูงกว่าระดับคุ้มทุน 

 

ด้านราคา GFPT มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากราคาผลิตภัณฑ์ส่งออกและในประเทศที่สูงขึ้นสอดคล้องอุตสาหกรรม ทั้งนี้ใน 2M65 ราคาส่งออกไก่เนื้อไทยเติบโต 19%YoY ในรูปเงินบาท โดยมีสาเหตุมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้น 8%YoY ในรูปดอลลาร์สหรัฐ ใน 1Q65 ราคาผลิตภัณฑ์พลอยได้อย่างโครงไก่ในประเทศอยู่ที่ 18-19 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 23%YoY และ 54%QoQ 

 

  1. อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้นและยอดขายส่งออกผลิตภัณฑ์ปรุงสุกที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น จะมากเกินพอชดเชยต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น ซึ่งปกติแล้ว GFPT จะเก็บสต๊อกวัตถุดิบอาหารสัตว์ไว้ 3-4 เดือน ขณะที่ราคาข้าวโพดในประเทศและราคากากถั่วเหลืองนำเข้าในตลาด Spot ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.8 บาทต่อกิโลกรัม และ 20.5 บาทต่อกิโลกรัมใน 4Q64

 

  1. ส่วนแบ่งกำไร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสู่ 114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256%YoY และ 43%QoQ โดยเกิดจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด (GFN) ที่ 30 ล้านบาท มาจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น QoQ และ บริษัท แมคคีย์ ฟู้ด เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด (McKey) ที่ 84 ล้านบาท

 

โดยรวมแล้ว ผลประกอบการ 1Q65 สะท้อนถึงยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้น และส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ทำการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ของ GFPT เพิ่มขึ้น 10% 

 

แนวโน้มธุรกิจในปี 2565:

SCBS ประเมินแนวโน้มผลประกอบการใน 2Q65 ด้วยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับต้นทุนที่กว้างขึ้น YoY มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาไก่มีชีวิตและโครงไก่ในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงกว่า 40 บาทต่อกิโลกรัม และ 19 บาทต่อกิโลกรัม 

 

ขณะที่ราคาข้าวโพดในประเทศและราคากากถั่วเหลืองนำเข้าในตลาด Spot ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12.6 บาทต่อกิโลกรัม และ 21 บาทต่อกิโลกรัมใน 2Q65TD โดยต้นทุนอาหารสัตว์ประมาณ 50% เกิดจากข้าวโพดในประเทศ 20-30% เกิดจากกากถั่วเหลืองนำเข้า และที่เหลือเกิดจากอื่นๆ (เช่น แป้งสาลีนำเข้า ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 5% ของอาหารสัตว์บก) 

 

ด้วยเหตุนี้ จึงคาดว่ากำไร 2Q65 จะเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY สนับสนุนจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจาก GFN ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นจากการกลับมาของคนงานหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

 

อย่างไรก็ดี ราคาไก่เนื้อในประเทศและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นสอดคล้องกับอุตสาหกรรม ประกอบกับการเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของสายการผลิตใหม่ จะช่วยสนับสนุนให้ GFPT รายงานกำไรปี 2565 เติบโตดีที่สุดในกลุ่มอาหาร

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising