วันนี้ (10 เมษายน) มีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรายการ ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ศึกฟอร์มูลาวันสนามที่ 3 ของฤดูกาล ที่อัลเบิร์ต พาร์ก เซอร์กิต ในนครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
โดยกริดออกสตาร์ทเป็น ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโกจากทีมเฟอร์รารี ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ ออกสตาร์ทในตำแหน่งโพลโพสิชัน ตามด้วย แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน จากทีมเรดบูลล์ เรซซิง และ เซร์คิโอ เปเรซ นักขับชาวเม็กซิโก จากทีมเรดบูลล์ เรซซิงอีกราย ในอันดับที่ 3
ส่วน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับชาวไทยของทีมวิลเลียมส์ ทำเวลาเป็นอันดับที่ 16 แต่โดนปรับต้องทำการสตาร์ท P20 เนื่องจากน้ำมันเหลือต่ำกว่าที่กำหนด ทำให้ไม่พอตรวจเนื่องจากสุ่มตรวจ
ผลการแข่งขันปรากฏว่า เวอร์สแตพเพน แชมป์โลกพบปัญหาเครื่องยนต์ในรอบที่ 39 จนต้องออกจาการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 จาก 3 สนามในฤดูกาลนี้ ส่วนแชมป์ตกเป็นของเลอแคลร์ ที่คว้าแชมป์เป็นรายการที่ 2 ของฤดูกาลได้สำเร็จ
ส่วนอันดับที่ 2 ตกเป็นของเปเรซ ต่อด้วย จอร์จ รัสเซล จากทีมเมอร์ซีดีส ลำดับที่ 3 และ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมรัสเซลในอันดับที่ 4
ด้าน อัลบอน นักแข่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษจากวิลเลียมส์ ที่ต้องออกสตาร์ทในอันดับสุดท้าย สามารถแซงขึ้นมาจบอันดับที่ 10 ได้สำเร็จ ส่งผลให้เขาคว้าแต้มแรกของฤดูกาลนี้ไปได้สำเร็จ
โดยก่อนหน้านี้ โวเกอร์ คาปิโต ผู้ก่อตั้งมูลนิธิไอซ์แมน (Iceman Charity) น้องชายของ โยสต์ คาปิโต ซีอีโอทีมวิลเลียมส์ ได้กล่าวไว้ว่า ทุกแต้มที่ทีมวิลเลียมส์ทำได้ ทางโยสต์จะแปรเปลี่ยนเป็นเงินและสิ่งของมอบให้กับทางมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือแก่เด็กกำพร้า ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าวัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง สถานที่ซึ่ง อเล็กซ์ อัลบอน ได้ไปเยี่ยมเยือนช่วงที่เขาเดินทางมายังประเทศไทย ก่อนไปแข่งขันที่ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ครั้งนี้อีกด้วย