รีวิวทริปเปิดประเทศ ‘เวียดนาม’ เข้าประเทศยากไหม และกลับไทยยุ่งยากหรือเปล่า?

“ไปเวียดนามยากไหมนะตอนนี้?”

“เอกสารยุ่งยากหรือเปล่า?”

“แล้วกลับไทยต้องทำอะไรบ้าง?”

สงสัยกันใช่ไหม นี่คือคำตอบ 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว THE STANDARD POP มีทริปต่างประเทศครั้งแรกอย่างเป็นทางการในรอบเกือบ 3 ปี เป็นเที่ยวบินรอบปฐมฤกษ์ของ Thai VietJet Air  ซึ่งร่วมมือกับการท่องเที่ยวดานัง (Da Nang Tourism Board) และการท่องเที่ยวกว๋างนาม (Quang Nam Tourism) ของเวียดนาม หลังประกาศเปิดพรมแดนอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวไทยสามารถเดินทางเข้าเวียดนามได้ตั้งแต่เหนือจรดใต้ โดยไม่จำเป็นต้องกักตัวแต่อย่างใด แต่นั่นก็ทำให้นักเดินทางหลายคนเลิ่กลั่ก นั่งไม่ติด เพราะอยากแพ็กกระเป๋าออกเดินทางไปเที่ยวแล้ว! 

เวียดนามมีอาณาเขตใกล้ประเทศไทย นั่งเครื่องไปเพียงชั่วโมงครึ่งก็ถึงที่หมาย ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า แถมยังมีค่าเงินถูกกว่าบ้านเรา สามารถแพ็กกระเป๋าเดินทางแบบปุ๊ปปั๊บทัวร์ได้ในทันที หลายคนจึงรู้สึกใจแกว่งเมื่อเห็นเพื่อนในโลกโซเชียลเริ่มเดินเล่นยังต่างประเทศ จนมีคำถามเข้ามาเยอะมากว่าตอนนี้ถ้าจะไปเวียดนาม ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง เข้าออกประเทศยากไหม และขากลับไทยต้องทำอะไรบ้าง

จากประสบการณ์ตรง เราอยากบอกว่า ง่ายมาก! เพียงเตรียมเอกสารไม่กี่อย่าง ก็สามารถเที่ยวเวียดนามได้ทันที

เที่ยวบินปฐมฤกษ์บรรยากาศคึกคักมาก

🛫เอกสารเตรียมเข้าเวียดนาม

1. พาสสปอร์ต: ตรวจเช็กวันหมดอายุให้ดี อย่างน้อยต้องมีอายุมากกว่า 6 เดือน
2. ตั๋วเครื่องบิน: มีหลายสายการบินเริ่มเปิดให้บริการ หรือถ้านึกไม่ออกจะบิน Thai Vietjet Air เหมือนเราก็ได้
3. ใบรับรองการฉีดวัคซีน / วัคซีนพาสปอร์ต: โชว์ผ่านมือถือหรือกดขอเวอร์ชันดิจิทัลได้จากแอปหมอพร้อม
4. ผลตรวจโควิดเป็นลบ: RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง หรือ ATK ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมใบรับรอง ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีให้บริการบริเวณชั้น 1 ประตู 3 ราคา 550 บาท 
5. Vietnam Health Declaration: เอกสารเข้าเมืองอิเล็กทรอนิกส์ กรอกก่อนไป ให้พิมพ์ตรง QR Code เพื่อสแกนเข้าประเทศ https://tokhaiyte.vn ตรงส่วน Entry Declaration
6. อื่นๆ: เอกสารการจองโรงแรม ประกันการเดินทาง (สมควรมี)

🛫ประสบการณ์การเข้าประเทศเวียดนาม

แม้จะดูเหมือนเอกสารเยอะแยะ แต่เอาเข้าจริง สิ่งที่จำเป็นหน้างานมากๆ คือพาสปอร์ต และหน้า QR Code ของ Vietnam Health Declaration ซึ่งไม่แตกต่างจากช่วงก่อนโควิดแม้แต่น้อย เพียงแต่เอกสารแสดงตัวทั้งหมดมาในรูปแบบดิจิทัล แค่คุณต้องกรอกก่อนเดินทางเท่านั้นเอง 

หลังจากเดินทางถึงสนามบินดานัง นักเดินทางทุกคนต้องแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ 2 ด่าน ด่านแรกเป็นด้านยิงบาร์โค้ด เอกสารที่จำเป็นต้องใช้คือพาสปอร์ตและบาร์โค้ดที่ได้จาก Vietnam Health Declaration ด้านนี้เป็นด่านตรวจเอกสารสุขภาพ เจ้าหน้าที่เพียงยิงบาร์โค้ดเท่านั้น ใช้เวลาสั้นมากไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนทั่วไปที่เราคุ้นชิน คือด่านตรวจคนเข้าเมืองปกติ 

🛫โควิดรุนแรงไหม และบรรยากาศในเวียดนามเป็นอย่างไร

สถานการณ์โควิดในเวียดนาม ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านก็คือปล่อยจอย (เกม) แม้มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 6.5 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 97 ล้านคน (ยอดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565) รัฐบาลปล่อยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และอิสระ ร้านรวงกลับมาเปิดแทบจะ 100% เราจึงเห็นคนเวียดนามเที่ยวคาเฟ่ต่างๆ ออกมานั่งกินถั่ว รับลมตามสวนสาธารณะ บางสถานที่มีให้สแกน PC-COVID ก่อนเข้าตัวอาคาร (ไทยชนะเวอร์ชันเวียดนาม) ที่นี่ไม่มีการเว้นระยะห่างใดๆ ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเป็นส่วนใหญ่ และหากผู้ใดติดเชื้อโควิดก็สามารถออกมาเดินเพ่นพ่านได้ ฉะนั้นคนที่ตัดสินใจเที่ยวเวียดนามอาจต้องระวังตัวให้มากสักหน่อย เราแนะนำให้คุณซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมโรคโควิดมาด้วย และเตรียมยาเบื้องต้นมาให้เพียงพอกับทริป 

แต่งชุดประจำชาติเวียดนาม เดินเล่นในฮอยอัน

🛫เอกสารเตรียมเข้าประเทศไทย

สำหรับเอกสารเข้าประเทศไทยไม่ต่างกับเวียดนาม เพียงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป คนที่เดินทางเข้าไทยไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิดแล้ว

1. พาสปอร์ต
2. ตั๋วเครื่องบิน
3. Thailand Pass: กรุณากรอกล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศ ใช้เวลาพิจารณา 3-7 วันทำการ https://tp.consular.go.th
4. เอกสารการจอง Test & Go: สามารถจองโรงแรมได้จาก Agoda 
5. หลักฐานการฉีดวัคซีน: จากวัคซีนพาสปอร์ตหรือหมอพร้อมก็ได้

🛫ประสบการณ์การเข้าประเทศไทย

การเข้าประเทศไทย ถ้าเตรียมเอกสารครบก็ไม่ยุ่งยากใดๆ เลย บนเครื่องบินพนักงานสายการบินจะให้เรากรอกเอกสาร Health Declaration ซึ่งมีเพียงไม่กี่บรรทัด หลังออกจากเครื่องบิน นักเดินทางจะต้องผ่านด่านตรวจเข้าเมือง 2 ด่านเช่นเวียดนาม ด่านแรกตรวจ Thailand Pass ให้เตรียมบาร์โค้ดไว้สแกน พร้อมหลักฐานการฉีดวัคซีน และสองคือด่านตรวจคนเข้าเมืองปกติ

หลังจากเสร็จสิ้นและออกสู่ด้านนอก เจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะรอรับเราตรงจุดนัดพบ และพาเราขึ้นรถกลับโรงแรม เพื่อตรวจ RT-PCR ก่อนเช็กอิน นักเดินทางจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องและโรงแรมก่อนผลตรวจโควิดจะออก โดยใช้เวลาประมาณ 6-12 ชั่วโมง เมื่อทราบผลแล้วสามารถกลับบ้านหรือออกท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ 

ตอนนี้หลายประเทศเริ่มอนุญาตให้นักเดินทางสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว สถานการณ์ทั่วโลกดีขึ้น แต่เรายังคงแนะนำให้คุณสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ขณะเดินทาง เพราะถึงแม้ไม่มีโควิด การป่วยต่างบ้านต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องที่พึงประสงค์นักสำหรับนักเดินทาง

ภาพ: Shutterstock