×

หุ้นกลุ่มอาหาร – สงครามยูเครนและรัสเซีย สร้างความกังวลระยะสั้นเกี่ยวกับต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงขึ้น

11.03.2022
  • LOADING...
หุ้นกลุ่มอาหาร

เกิดอะไรขึ้น:

สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับต้นทุนอาหารสัตว์ เนื่องจากยูเครนและรัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดและข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก แต่ผลกระทบดังกล่าวต่อบริษัทกลุ่มอาหารนับถึงปัจจุบันมีจำกัด เนื่องจากอาหารเป็นสิ่งจำเป็นและส่วนใหญ่ขายในตลาดท้องถิ่นมากกว่าส่งออก โดยยอดขายจากรัสเซียคิดเป็นสัดส่วน 3% ของยอดขายรวมของ CPF และ 0.3% ของยอดขายรวมของ TU

 

อย่างไรก็ตาม หากสงครามยืดเยื้อ ต้นทุนอาหารสัตว์สูงจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากรัสเซียและยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 2 และอันดับ 5 ของโลก (รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 26% ของการส่งออกข้าวสาลีทั่วโลก) และยูเครนและรัสเซียเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่อันดับ 4 และอันดับ 6 ของโลก (รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 16% ของการส่งออกข้าวโพดทั่วโลก) อ้างอิงข้อมูลจาก USDA 

 

สำหรับต้นทุนอาหารสัตว์ประมาณ 50% จากทั้งหมดเกิดจากข้าวโพดในประเทศ 20-30% เกิดจากกากถั่วเหลืองนำเข้า และที่เหลือเกิดจากอื่นๆ (ข้าวสาลีนำเข้าคิดเป็นสัดส่วน 5% ของอาหารสัตว์บก และ 15-20% ของอาหารสัตว์น้ำ) ใน 1Q65TD ราคาข้าวโพดในประเทศทำจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 11 บาทต่อกิโลกรัม ราคากากถั่วเหลืองนำเข้าทำจุดสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 21 บาทต่อกิโลกรัม และราคาข้าวสาลีนำเข้าเพิ่มขึ้นสู่ 20 บาทต่อกิโลกรัม

 

ส่วนราคาสัตว์บกในประเทศยังสูง โดยราคาสุกรในประเทศใกล้เคียงกับระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 98 บาทต่อกิโลกรัม ใน 1Q65TD อุปทานสุกรที่ตึงตัวสืบเนื่องมาจากโรค ASF (โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร) และฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง (ส่งผลกระทบต่ออัตราการรอดของสุกร) จะช่วยสนับสนุนราคาสุกร ราคาไก่เนื้อในประเทศ แข็งแกร่งที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 39 บาทต่อกิโลกรัมใน 1Q65TD 

 

ในเดือนมกราคม มูลค่าการส่งออกไก่เนื้อไทยเติบโต 25%YoY (เพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน) โดยปริมาณการส่งออกเติบโต 5%YoY และราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 19%YoY ในรูปเงินบาท (ราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 7%YoY ในรูปดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น YoY เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการปรับราคาส่งออก) อุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง ราคาสุกรในประเทศสูง (ผลิตภัณฑ์ทดแทน) และการส่งออกที่ฟื้นตัว จะช่วยสนับสนุนราคาไก่เนื้อ

 

ขณะที่ราคาสุกรในต่างประเทศอ่อนแอ โดยราคาสุกรในจีนใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดตลอดกาลที่ 14 หยวนต่อกิโลกรัมใน 1Q65TD (ลดลง 55%YoY และ 13%QoQ) ราคาปี 2565 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาปัจจุบันต่ำกว่าจุดคุ้มทุนโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก และราคาสุกรในเวียดนามอยู่ที่ 53,800 ดองต่อกิโลกรัมใน 1Q65TD (ลดลง 30%YoY แต่เพิ่มขึ้น 29%QoQ) ราคาปี 2565 มีแนวโน้มที่จะอยู่ใกล้เคียงกับระดับนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจะดูดซับอุปทานสุกรที่เพิ่มขึ้น

 

กระทบอย่างไร: 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มอาหาร (SETFOOD) ปรับลดลง 4.3%MoM โดย

ราคาหุ้น CPF ปรับลดลง 7.6%MoM อยู่ที่ระดับ 23.80 บาท 

ราคาหุ้น GFPT ปรับลดลง 6.8%MoM อยู่ที่ระดับ 12.30 บาท

ราคาหุ้น TU ปรับลดลง 12.3%MoM อยู่ที่ระดับ 18.60 บาท

 

มุมมองต่อผู้ประกอบการ:

SCBS มองว่าราคาสัตว์บกในประเทศเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วกว่าต้นทุนอาหารสัตว์ จึงคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบธุรกิจสุกรและไก่เนื้อจะปรับตัวดีขึ้นดังเห็นได้จากส่วนต่างราคา (ราคาลบด้วยต้นทุนอาหารสัตว์โดยรวม) ที่กว้างขึ้น YoY ใน 1Q65TD ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือการปรับตัวขึ้นต่อของต้นทุนอาหารสัตว์ ภาวะอุปสงค์และอุปทานที่ดีขึ้นในปี 2565 จะช่วยสนับสนุนการปรับราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

 

อย่างไรก็ดี ด้วยมาร์จิ้นสัตว์บกดีขึ้น YoY SCBS จึงชอบ GFPT และ CPF เพราะคาดว่าผลประกอบการปี 2565 จะฟื้นตัวดีขึ้น นำโดย GFPT ใน 1H65 ได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ และ CPF ใน 2H65 ได้แรงหนุนจากการดำเนินงานต่างประเทศและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ดีขึ้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X