Breaking News เป็นคำที่หลายคนเห็นแล้วคงคาดหวังจะเห็นเนื้อหาที่น่าตกใจหรือคาดไม่ถึง แต่เชื่อว่าสำหรับแฟนหงส์แดงลิเวอร์พูล หลายๆ คนที่ได้เฝ้าติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวดีลระดับโลกของ ฟิลิปป์ คูตินโญ ที่เกิดขึ้นระหว่างลิเวอร์พูลและบาร์เซโลนาคงไม่แปลกใจเท่าไรนัก เนื่องจากทิศทางของข้อมูลที่ไหลผ่านมือสู่คีย์บอร์ดเข้าสู่ฟีดเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ที่ผ่านมาชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘ย้ายแน่นอน’
เชื่อว่าคำถามที่อยู่ในใจใครหลายคนทั้งทำไมบาร์เซโลนาต้องการคูตินโญ หรือลิเวอร์พูลจะทำอย่างไรเมื่อเสียคูตินโญไป คงได้คำตอบไปพอสมควรแล้ว
แต่วันนี้ THE STANDARD จะมาหาคำตอบว่า ทำไมนักฟุตบอลคนนี้ที่เคยเกือบล้มเหลวกับสโมสรแรกในยุโรปถึงได้กลับมาเป็นว่าที่นักฟุตบอลที่มีราคาสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
วาสโก ดา กามา ผู้เติมเต็มความฝันของคูตินโญจากพื้นคอนกรีตสู่สนามฟุตบอลอาชีพ
ระหว่างที่ชาวริโอเดจาเนโรกำลังใช้ชีวิตกับกิจกรรมต่างอยู่ริมชายหาดโคปาคาบานา หรืออิปาเนมา เหมือนดังเช่นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ภายในโรชา ชุมชนทางตอนเหนือของริโอ จะมีใครรู้ว่าเด็กคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนาน อยู่บนสนามคอนกรีตนี้จะกลายเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลกในอนาคต
เด็กหนุ่มคนนี้ที่กำลังเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานกับพี่ชายอีกสองคนบนพื้นคอนกรีตในบริเวณนั้น เขาเป็นลูกคนเล็กของโฆเซ คาร์ลอส เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 1992 ฟุตซอลคือศาสตร์ที่เขาเลือกที่จะทุ่มเทกับมันในวัยเด็ก
เขามีพี่ชายคือคริสเตียโน และเลอานโดร เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ก่อนที่ฝีมือของเขาจะก้าวผ่านพี่ชายจนกลายเป็นที่สนใจขอวาสโก ดา กามา สโมสรท้องถิ่นที่สนใจนำพาเขาเข้าสู่ฟุตบอลสนามใหญ่
“ผมเล่นฟุตซอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเมื่อผมอายุ 7 ขวบก็ได้เริ่มต้นเล่นให้กับสโมสรวาสโก ดา กามา ผมเล่นฟุตซอลต่อจนถึงอายุ 11 ขวบก็เริ่มต้นลงสนามใหญ่ 11 คน
“ฟุตซอลคือที่ที่ผมเรียนรู้ทุกอย่าง ฟุตซอลเป็นสิ่งที่ต้องใช้เทคนิคและความเร็ว สนามที่คุณเล่นเล็กกว่าและไวกว่า ฉะนั้นคุณต้องเป็นนักเตะที่มีเทคนิคสูงจึงจะประสบความสำเร็จ ฟุตซอลช่วยให้ผมปรับตัวได้เร็วขึ้น”
ในช่วงเวลาที่อยู่สโมสรวาสโก ดา กามา คูตินโญได้พบกับดาวดังที่กำลังก้าวผ่านระบบมาเช่นเดียวกันอย่างเนย์มาร์ ซึ่งกลายเป็นข้อถกเถียงกันในบรรดาผู้คนที่มีโอกาสได้ชมฝีเท้าของทั้งคู่ว่า ‘ใครจะกลายเป็นคนที่เก่งที่สุด’
แต่สุดท้ายก็เป็นทีมวาสโก ดา กามา รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีของคูตินโญที่เอาชนะทีม ซานโตส รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในศึก Copa do Brasil ในปี 2008 ส่งผลให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานขึ้นไปอีก
อินเตอร์ มิลาน สนามแรกในยุโรปของคูตินโญ
ด้วยชื่อเสียงและความสามารถ แน่นอนว่าคูตินโญตกเป็นเป้าหมายของสโมสรชั้นนำในยุโรป แต่สุดท้ายเป็นอินเตอร์ มิลาน จากอิตาลีที่ตัดสินใจควักเงิน 4 ล้านยูโร เพื่อรับความเสี่ยงกับดาวรุ่งอนาคตไกลคนต่อไปของประเทศบราซิล
ในช่วงปี 2008-2010 คูตินโญถูกปล่อยให้สโมสรเก่าได้ใช้งาน ก่อนที่ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปนที่ก้าวเข้ามาคุมทีมในปี 2010 เริ่มได้เห็นดาวรุ่งชาวบราซิลลงสนามซ้อมหลายครั้ง และประกาศว่านักเตะคนนี้คือ ‘อนาคตของสโมสร’
หลายๆ คนคงจำค่ำคืนที่อินเตอร์ มิลาน เอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ไป 4-3 ด้วยภาพความประทับใจของแกเร็ธ เบล ที่แจ้งเกิดบนเวทียุโรปอย่างเป็นทางการด้วยการเหมาคนเดียว 3 ประตูในเกมนั้น แต่นอกจากนักเตะชั้นนำของโลกอย่างซามูเอล เอโต หรือเวสลีย์ ชไนเดอร์ อีกหนึ่งนักเตะที่กลายเป็นที่จับตามองคือหนุ่มผมหยิกหมายเลข 29 ฟิลิปป์ คูตินโญ ที่สร้างโอกาสทำประตูให้กับทีมถึง 2 จาก 4 ประตูในคืนนั้น
แต่หลังจากที่ร่วมงานกับเบนิเตซได้ไม่นาน ชีวิตนักฟุตบอลอาชีพของเขาก็พบกับความท้าทายครั้งใหม่ ด้วยการที่เบนิเตซ กุนซือที่เริ่มต้นให้โอกาสเขาลงสนามถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และจุดเริ่มต้นของอาการบาดเจ็บต่างๆ ทำให้เส้นทางสู่ความสำเร็จของเขาเหมือนจะหยุดชะงักลงที่ตรงนั้น
ในช่วงปี 2011-12 คูตินโญไม่สามารถเบียดตัวเองกลับขึ้นมาสู่รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สุดท้ายสโมสรตัดสินใจปล่อยเขาให้ทีมเอสปันญอลยืมตัวเป็นเวลา 1 ปีกับทีมเอสปันญอลในลาลีกาสเปน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการฟื้นฟูความมั่นใจด้วยโอกาสการลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากการลงเล่น 16 เกมกับผลงาน 5 ประตู คูตินโญก็ได้กลับคืนสู่ถิ่นสตาดีโอ จูเซปเป เมอัซซา อิตาลีด้วยความมั่นใจ จนดีเอโก มิลิโต ศูนย์หน้าตัวหลักของอินเตอร์ในเวลานั้นได้ออกปากชมว่า “ช่วงเวลาในสเปนได้เปลี่ยนแปลงเขาให้ดีขึ้น”
แต่หลังจากนั้นไม่นาน แฟนบอลเนรัซซูรีถึงกับช็อก เมื่อสโมสรตัดสินใจปล่อยตัวดาวรุ่งเบอร์หนึ่งของทีมให้กับลิเวอร์พูลไปด้วยค่าตัวสุดถูกที่ 8 ล้านปอนด์ และคูตินโญก็ได้พบกับฟุตบอลอังกฤษเป็นครั้งแรก
ลิเวอร์พูลในช่วงเปลี่ยนผ่าน
คูตินโญได้รับเสื้อหมายเลข 10 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ที่ช่วยให้เขาเริ่มต้นได้ดีกับชีวิตใหม่ที่แอนฟิลด์
คูตินโญร่วมงานกับหลุยส์ ซัวเรซ และแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้อย่างลงตัว โดยได้เล่นในระบบที่เขาคุ้นเคย 4-2-3-1 ในตำแหน่งปีกซ้าย และได้กลายเป็นกำลังสำคัญในฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากที่สุดครั้งหนึ่งในฤดูกาล 2012-13
จากประสบการณ์บนถนนคอนกรีตสู่สนามฟุตซอล ผ่านสนามหญ้าในอิตาลีและสเปน ทำให้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในประเทศอังกฤษด้วยการสร้างผลงานที่โดดเด่นให้กับทีม และสร้างความอับอายให้กับกองหลังของคู่ต่อสู้
คูตินโญปรับตัวเข้ากับตำแหน่งใหม่ของเขาที่ลิเวอร์พูลได้เป็นอย่างดี โดยเขาได้รับหน้าที่เป็นกองกลางทางด้านซ้าย มีหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุก และทำหน้าที่ไล่กดดันเกมรุกในแดนกลางของคู่แข่ง
แต่ชีวิตของเขาและทีมก็เปลี่ยนไป เมื่อหลุยซ์ ซัวเรซ ตัดสินใจย้ายไปบาร์เซโลนา ทำให้คูตินโญจำเป็นต้องสร้างสรรค์ผลงานด้วยความคาดหวังเท่าเดิม ในขณะที่ผู้ที่ช่วยให้เวทมนตร์ของเขาสัมฤทธิ์ผลด้วยการจบสกอร์ได้ย้ายไปร่วมทีมอื่นแล้ว
แต่สโมสรก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะตัดสินใจหาผู้ช่วยคนใหม่ในการจบสกอร์ ด้วยการเซ็นสัญญากับโรแบร์โต เฟียร์มิโน เพื่อนร่วมชาติชาวบราซิลมาร่วมทีม รวมถึงได้กุนซือชาวเยอรมันอย่างเจอร์เกน คลอปป์ มากุมบังเหียน และช่วยนำพาอาชีพของเขากลับสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้ง
ตรงกันข้ามกับสโมสร คูตินโญถูกปฏิเสธจากการเรียกติดทีมชาติในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่บ้านเกิดของเขาในปี 2014 รวมถึงคาร์ลอส ดุงก้า กุนซือคนต่อมาก็ยังไม่เชื่อมั่นใจฝีมือของเขา แต่กลับเลือกไว้ใจกาก้า ซึ่งมีอายุ 34 ปีในเวลานั้นมาใช้งานแทน
แต่สุดท้ายหลังจากที่ติเต้ กุนซือคนปัจจุบันเข้ามาคุมทีมชาติบราซิล คูตินโญก็ได้รับโอกาสกับเซเลเซามากขึ้น และทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเป็นอีกหนึ่งความหวังของทีมในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียอย่างแน่นอนแล้ว
บาร์เซโลนา บทบาทต่อไปในชีวิตของคูตินโญ?
สำนักข่าวกีฬาต่างๆ ได้ยืนยันว่าบาร์เซโลนาเตรียมทุ่มเงิน 142 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวมิดฟิลด์รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งที่ผ่านมา เพื่อนร่วมชาติอย่างเนย์มาร์ก็ได้ออกมาให้การสนับสนุนว่าบาร์เซโลนาจะเป็นสโมสรที่เหมาะสมสำหรับคูตินโญในอนาคต
“มีนักฟุตบอลหลายคนที่มีคุณภาพพอสำหรับบาร์เซโลนา และคูตินโญคือหนึ่งในนั้น เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม และสไตล์การเล่นของเขาเหมาะสมกับบาร์เซโลนา”
เช่นเดียวกับฮีโร่ในวัยเด็กของคูตินโญอย่างโรนัลดินโญ ที่มองว่าคูตินโญเป็นนักเตะที่เหมาะสมกับบาร์เซโลนา
“ผมไม่สามารถพูดแทนคูตินโญหรือบาร์เซโลนาได้ แต่ผมรู้ว่าบาร์เซโลนาต้องการนักเตะแบบไหน และคูตินโญคือนักเตะแบบที่พวกเขาต้องการ”
ดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตของคูตินโญที่มีโอกาสได้ลงสนามอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเนย์มาร์ในวัยเด็ก และได้ลงสนามร่วมทีมกับหลุยส์ ซัวเรซ ที่ลิเวอร์พูล สุดท้ายแล้วตอนต่อไปในชีวิตของเขาก็ได้ย้ายไปร่วมกับผู้เล่นสองคนนี้อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากที่เราได้เห็นคำที่ว่า
“Breaking News คูตินโญซบทีมบาร์เซโลนาด้วยค่าตัว 142 ล้านปอนด์”
Photo: AFP
อ้างอิง: