หลังจากที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังมานานหลายปี ทั้ง Celine, Raf Simons, Maison Margiela และ Calvin Klein ในฐานะหนึ่งในดีไซเนอร์ของทีม และแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาเราก็ได้เห็น Matthieu Blazy (มาทธิเออ บลาซี) ก้าวขึ้นมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Bottega Veneta ซึ่งก็ต้องบอกว่าเพอร์เฟกต์ไร้ที่ติ และสะท้อนว่าการสั่งสมประสบการณ์ของเขาและการใช้เวลาก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นในวงการก็ถือว่าคุ้มค่า
ตั้งแต่ที่ Daniel Lee ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษได้ประกาศลาออกจาก Bottega Veneta แบบกะทันหันเมื่อปีก่อน หลายคนก็ต่างช็อกเพราะยอดขายและความสำเร็จของแบรนด์ระดับตำนานจากอิตาลีภายใต้บริษัทแม่อย่าง Kering ก็ก้าวกระโดดแบบไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งพอทาง Bottega Veneta ประกาศว่า Matthieu Blazy ที่ในตอนนั้นอยู่ในตำแหน่ง Design Director สินค้า Ready-to-Wear ของแบรนด์จะมาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ หลายคนก็ต่างลุ้นว่าเขาจะสามารถแบกความกดดันและนำพา Bottega Veneta ให้ไปอยู่จุดที่สูงขึ้นได้ไหม
โดยสำหรับคอลเล็กชันแรกของ Matthieu Blazy ที่ Bottega Veneta มีทั้งหมดกว่า 70 ลุค ที่รวบรวมทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงผู้ชาย โดยแรงบันดาลใจสำคัญที่ทางดีไซเนอร์วัย 35 ปีจากเบลเยียมคนนี้ได้ใช้ คืออยากให้เสื้อผ้ามีตัวตน มีชีวิตชีวา มีเอเนอร์จี้ และมีความเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น เพราะในหลายครั้งคนมักมอง Bottega Veneta ในมุมรากฐานที่เป็นแบรนด์กระเป๋าหนังอย่างเดียว แต่ไม่ได้โฟกาสที่ตัวเสื้อผ้า ซึ่งความน่าสนใจก็คือความหลากหลายของไอเท็มเสื้อผ้าที่เริ่มด้วยเสื้อกล้ามกางเกงยีนส์ที่ทำมาจากหนังนูบัค (Nubuck) ต่อด้วยโค้ตยาวหนัง ชุดเดรสหนัง ชุดสลิปเดรส สเวตเตอร์ถัก จนถึงกระโปรงหนังทรง Flamenco ที่ตรงชายตกแต่งด้วยพู่ (Fringe) ทำมาจากหนัง
Matthieu Blazy ได้บอกกับทางเว็บไซต์ Fashion Network แบบติดตลกว่า “ผมอยากนำเอเนอร์จี้กลับมาใส่ในเสื้อผ้าผ่านการเทเลอริง เพราะเรามีสตรีทแวร์มากเกินไปแล้ว!” ซึ่งเขาก็ยังบอกต่อว่าตัวเองไม่ได้สนใจเรื่อง Youth Culture ขนาดนั้น ที่ต้องทำเสื้อผ้าให้คนรุ่นใหม่สวมใส่ ซึ่งก็เป็นความคิดที่ดูสมเหตุสมผล เพราะราคาของ Bottega Veneta ถือว่าสูงกว่าแบรนด์อื่นๆ ใน Kering และฐานคนซื้อเสื้อผ้าก็จะมีอายุหน่อย
แต่เพราะวงการแฟชั่นเป็นเรื่องของธุรกิจที่อยู่กับยอดขายและต้องการ Brand Awarness อยู่ตลอดเวลา เราก็ได้แต่ภาวนาว่าความงดงามของคอลเล็กชันนี้จะนำพาให้ Matthieu Blazy ได้อยู่ต่อที่ Bottega Veneta อีกหลายปี เพราะหลายครั้งแล้วที่เราได้เห็นดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจได้เข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์แบรนด์ใหญ่และทำผลงานได้ดีเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้ไปต่อหากไม่ตอบโจทย์เรื่องตัวเลขและกระแส ซึ่งก็ต้องรอลุ้นต่อไปว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ภาพ: Bottega Veneta
อ้างอิง: