×

แม้ยอดการใช้ ‘เงินหยวน’ พุ่ง 11% แต่ยังห่างไกลสกุลเงินหลักของโลก ขณะที่คนหันใช้ Stablecoin ในรูปดอลลาร์เพิ่ม

21.02.2022
  • LOADING...
แม้ยอดการใช้ ‘เงินหยวน’ พุ่ง 11% แต่ยังห่างไกลสกุลเงินหลักของโลก ขณะที่คนหันใช้ Stablecoin ในรูปดอลลาร์เพิ่ม

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการรายงานจากสื่อของรัฐบาลจีน โดยอ้างอิงข้อมูลจากระบบ ‘SWIFT’ ว่า ยอดธุรกรรมสกุลเงินหยวนเติบโตกว่า 10.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนธันวาคม และในขณะนี้สกุลเงินหยวนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 3.2% จากธุรกรรมทั้งหมดในโลก ซึ่งเติบโตจาก 2% เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่เงินปอนด์ (อังกฤษ) คิดเป็นสัดส่วน 6.3% จากธุรกรรมทั่วโลก

 

การเติบโตของการใช้งานเงินหยวนนั้นได้รับการสนับสนุนจากการที่ผู้ผลิตก๊าซและน้ำมันอันดับ 3 ในรัสเซีย ‘Gazprom Neft’ จะรับชำระโดยใช้เงินหยวนแทนเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเติมน้ำมันให้สายการบินรัสเซียในสนามบินจีน และยังจะมีการใช้สกุลเงินหยวนดิจิทัล (eCNY) รวมถึง CBDC (Central Bank Digital Currency) ของจีนอีกเช่นกัน

 

อย่างไรก็ตาม สายการบินจากรัสเซียที่มาลงในจีนนั้นยังมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการซื้อขายน้ำมันในตลาดโลกก็ยังคงใช้สกุลเงินดอลลาร์เป็นหลัก และจากปัจจัยด้านโรคระบาดทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไม่สะดวกนัก นอกจากนี้การรับชำระด้วย eCNY ยังไม่ครอบคลุมภายในประเทศมากเท่ากับการรับชำระด้วย weChat หรือ Alipay จึงทำให้การเติบโตอาจชะลอตัวลงไป

 

นอกจากนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ด้านคริปโต Chainalysis ยังเผยว่า ในปี 2020 สกุลเงินคริปโตที่อยู่ภายในประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็นเหรียญที่ถูกค้ำมูลค่าด้วยเงินดอลลาร์อยู่ด้วยซ้ำ

 

ไมค์ แม็กโกลน นักกลยุทธ์จากสำนักข่าว Bloomberg ยังแสดงมุมมองว่า คริปโตเป็นปัจจัยเชิงบวกสำหรับเงินดอลลาร์ เพราะแม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะลดลง แต่ในโลกคริปโตปริมาณการใข้งาน Stablecoin ในรูปเงินดอลลาห์กลับเติบโตสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้มีปริมาณสูงถึง 1.83 แสนล้านดอลลาร์ (5.4 ล้านล้านบาท) 

 

แม้ eCNY จะเป็นความฝันของจีน แต่ด้วยการควบคุมตลาดจากรัฐบาลจีนทำให้ตอนนี้การใช้งานของสกุลดังกล่าวยังคงโดดเด่นภายในประเทศจีนเป็นหลักเท่านั้น 

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising