สำนักข่าว AFP และ CNN เปิดเผยว่า อยาตุลเลาะห์ อาลี โคมัยนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกแถลงการณ์ต่อสื่อเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุประท้วงการทำงานของรัฐบาลขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยได้ประณามศัตรูของอิหร่านทั้งหมด (หนึ่งในนั้นคือสหรัฐอเมริกา) ที่คอยยั่วยุและปลุกระดมให้ชาวอิหร่านลุกฮือขึ้นต่อต้านและตั้งคำถามกับรัฐบาลและระบอบอิสลาม จนลุกลามบานปลายกลายเป็นเหตุปะทะกันเป็นวันที่ 6 มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 คน และมีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 450 คนในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ
ชาวอิหร่านส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลนายฮัสซัน โรฮานี ได้ออกมาชุมนุมประท้วงที่ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น นำงบประมาณของรัฐเข้าแทรกแซงการต่างประเทศมากกว่าจะนำมาพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในวงกว้าง พร้อมต้องการให้ผู้นำสูงสุดของอิหร่านลงจากอำนาจ โดยเหตุประท้วงครั้งนี้นับเป็นวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 1 ทศวรรษ หลังการเดินขบวนครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปี 2009
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงทวีตข้อความวิจารณ์เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในอิหร่าน พร้อมยกย่องชาวอิหร่านที่ลุกขึ้นต่อสู้กับระบอบที่โหดร้าย เต็มไปด้วยการทุจริต และปกป้องสิทธิที่พวกตนพึงจะได้รับจากรัฐบาล พร้อมยังย้ำว่าอิหร่านกำลังขาดแคลนอาหาร อัตราเงินเฟ้อสูง และเป็นประเทศที่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน
โมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ ออกมาตอบโต้การกระทำของทรัมป์ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า “ทรัมป์กำลังเสียเวลาในการส่งข้อความเย้ยหยันและไร้ประโยชน์มาให้เรา และสิ่งที่ทรัมป์ควรจะทำเวลานี้คือสนใจปัญหาคนไร้บ้านและพลเมืองที่หิวโหยในประเทศของตัวเองมากกว่า”
Photo: AFP
อ้างอิง:
