องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ออกมาระบุว่า รัสเซียยังคงเพิ่มกองกำลังทหารตามแนวชายแดนยูเครนอย่างต่อเนื่อง หลังรัสเซียอ้างว่าได้เริ่มถอนกำลังทหารบางส่วนออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้วเพียงหนึ่งวัน
ผู้นำชาติตะวันตกหลายรายได้ออกมาพูดตรงกันว่า พวกเขายังไม่เห็นหลักฐานการถอนกำลังทหารของรัสเซีย ตามที่โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้กล่าวอ้างว่า รัสเซียได้จบภารกิจซ้อมรบและได้ถอนทหารออกจากบริเวณชายแดนยูเครนแล้วในวันอังคารที่ผ่านมา
ล่าสุดรัฐบาลรัสเซียได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงถึงการเคลื่อนย้ายกำลังทหารกลับสู่ฐานทัพหลังเสร็จสิ้นการซ้อมรบ พร้อมระบุว่ากองกำลังที่ประจำอยู่ในเบลารุสและตอนเหนือของยูเครนจะถูกเคลื่อนย้ายกลับสู่ฐานทัพในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าชาติตะวันตกจะไม่เชื่อในเรื่องนี้
เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ให้สัมภาษณ์ในกรุงบรัสเซลส์ก่อนเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของ NATO ว่า จนถึงขณะนี้เขายังคงไม่ได้รับรายงานว่ารัสเซียมีการถอนกำลัง ในทางตรงกันข้ามดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังเพิ่มกองกำลังในบริเวณดังกล่าวด้วยซ้ำ
“รัสเซียมีการเคลื่อนย้ายกองกำลังไป-มา ดังนั้นวิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการถอนกำลังจริง” สโตลเตนเบิร์กระบุ พร้อมยืนยันว่าชาติพันธมิตร NATO มีความพร้อมที่จะปะทะกับรัสเซีย
ขณะที่รัฐบาลรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่าคลิปวิดีโอหลักฐานที่ถูกปล่อยออกมาเป็นของจริง และยังบอกด้วยว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีความปรารถนาจะใช้วิธีเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ด้านบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว Sky News ในวันพุธที่ผ่านมา โดยโจมตีรัสเซียว่ามีความพยายามส่งสัญญาณที่สร้างความสับสนให้กับชาติตะวันตก
“เราเห็นสัญญาณเชิงบวกบางอย่าง เช่น การแสดงหลักฐานว่ารัสเซียได้ถอนกองกำลังบางส่วนออกจากพื้นที่ แต่ขณะเดียวกันข่าวกรองเราก็พบการสร้างโรงพยาบาลสนามใกล้กับพรมแดนยูเครน ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการเตรียมพร้อมบุกของรัสเซีย” จอห์นสันกล่าว
การแสดงความเห็นของจอห์นสันเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สหรัฯ ยังไม่สามารถยืนยันหลักฐานการถอนกองกำลังทหารของรัสเซียออกจากพื้นที่ใกล้ชายแดนยูเครนได้ โดยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพบกองกำลังรัสเซียในจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของเลขาธิการ NATO
“ข้อเท็จจริงคือ รัสเซียยังมีกองกำลังกว่า 150,000 นายโอบล้อมชายแดนที่ติดกับยูเครนและเบลารุส ทำให้เรายังเชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจจะบุกยูเครนอยู่” ไบเดนกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียเลือกใช้วิถีทางการทูตในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP