บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC วางเป้าหมายรายได้ปี 2565 เติบโต 4-6% จากการขยายตัวของ 3 ธุรกิจหลัก พร้อมจัดงบลงทุน 30,000-35,000 ล้านบาท รองรับการพัฒนาเครือข่าย 5G และ AIS Fibre ส่วนธุรกิจ Data Center ที่ร่วมกับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และ Singapore Telecommunications Limited (Singtel) คาดเริ่มให้บริการปลายปี 2566 พร้อมประเมินความต้องการใช้ Data Center ในไทยขยายตัว 20-25% ภายในช่วง 3-5 ปี
นัฐิยา พัวพงศกร หัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และกำกับดูแลการปฏิบัติงาน ADVANC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ปีนี้บริษัทวางเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 4-6% จากปีก่อนที่ทำได้ 182,605 ล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากการขยายตัวของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก คือ
- ธุรกิจโมบายล์ (มือถือ) ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวใกล้เคียงกับตัวเลข GDP ไทยที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ราว 3% รวมทั้งการขยายตัวของเครือข่าย 5G ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ราคาเครื่องมือถือที่รองรับเครือข่าย 5G เริ่มปรับลดลงสู่ระดับที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ (Affordable) ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ใช้งานมีจำนวนสูงขึ้น
- ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน (บรอดแบนด์) คาดว่าจะเติบโตปีนี้ประมาณ 20% จากปีก่อน หลังบริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้บริการสู่ระดับ 2.2 ล้านราย จากช่วงสิ้นปี 2564 ที่อยู่ระดับ 1.7 ล้านราย โดยจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ และขยายพื้นที่การให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าให้ครอบคลุมกว่า 11 ล้านครัวเรือน จากเดิมที่มีจำนวน 8 ล้านครัวเรือน
- ธุรกิจลูกค้าองค์กร (Enterprise) คาดว่าจะขยายตัวจากความต้องการใช้บริการ Cloud, Data Center และ ICT Solution ที่เพิ่มขึ้น หลังจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจมาสู่ด้านดิจิทัลมากขึ้น ซึ่ง ADVANC จะเน้นการให้บริการเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่กระบวนการดิจิทัลด้วยโครงสร้างพื้นฐานและบริการต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เดิมธุรกิจ Enterprise มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% ของรายได้รวม ซึ่งในไตรมาส 4/64 มีการเติบโตสูงถึง 20%
นัฐิยากล่าวเพิ่มว่า ในส่วนของ EBITDA ปีนี้ คาดว่าจะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ (Low-single digit growth) จากแนวโน้มของรายได้ที่เติบโต การบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง และจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมในการตลาด พร้อมเตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท (ไม่นับรวมการจ่ายค่าคลื่นและการประมูลคลื่นใหม่) เพื่อใช้รองรับการลงทุนในโครงข่ายระบบ 5G และ AIS Fibre มากขึ้น รวมถึงขยายในส่วนของธุรกิจ Enterprise และพัฒนาแพลตฟอร์มที่วิเคราะห์ข้อมูลในการให้บริการที่ตรงใจลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าด้านความร่วมมือกับ GULF และ Singtel เพื่อพัฒนาธุรกิจ Data Center ในประเทศไทยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบธุรกิจร่วมกัน เมื่อได้ผลศึกษาแล้วจึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ปี จึงประเมินเบื้องต้นว่าน่าจะสามรถให้บริการได้ในปลายปี 2565 หรือช้ากว่านั้น
“คาดว่าธุรกิจ Data Center จะเติบโตราว 20-25% ภายในช่วง 3-5 ปี ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เฉพาะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ระดับโลก (Hyperscalers) ซึ่งจะมาจากเครือข่ายของ Singtel 2. กลุ่มภาครัฐ และ 3. กลุ่มลูกค้าองค์กร ซึ่งเราเห็นในเทรนด์ในประเทศชัดมากว่ามีความต้องการสูง Data Center แห่งใหม่ที่เรากำลังศึกษาร่วมกับพาร์ตเนอร์นี้ ข้อได้เปรียบหลักๆ คือการมีผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเป็นหนึ่งในพาร์ตเนอร์ เพราะต้นทุนหลักของการทำ Data Center คือไฟฟ้า”
นอกจากนี้ ADVANC กำลังศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การคำนึงถึงโอกาสในการเชื่อมต่อกับธุรกิจเดิม และการต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทประกอบการศึกษาด้วย
ส่วนของความคืบหน้าในการร่วมทุนกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จัดตั้ง AISCB เพื่อให้บริการสินเชื่อดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น คาดว่าจะได้ใบอนุญาตจากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และมีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งธุรกิจภายในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
