หุ้นกลุ่มแบงก์พาเหรดขึ้น รับอานิสงส์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นหนุนผลประกอบการขยายตัว นักวิเคราะห์ระบุหุ้นแบงก์ไทยราคายังไม่แพง ขณะที่อัตราการจ่ายเงินปันผลสูงจูงใจ
วันนี้ (26 มกราคม) หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบยกแผง นำโดยหุ้น KBANK ปรับเพิ่มขึ้น 2.79%, BBL เพิ่มขึ้น 1.87%, SCB ปรับเพิ่มขึ้น 1.62%, BAY เพิ่มขึ้น 2.07%, KTB เพิ่มขึ้น 1.45% และ KKP เพิ่มขึ้น 2.94%
วิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มแบงก์วันนี้ปรับเพิ่มขึ้นแทบทั้งกลุ่ม สาเหตุหลักมาจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่เริ่มเห็นสัญญาณชัดขึ้น โดยล่าสุด IMF คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4.1% ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยน่าจะเติบโต 4.4%
อย่างไรก็ตาม แม้มุมมองจากหน่วยงานรัฐบางส่วนจะคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระดับที่ต่ำกว่า 4% แต่ก็สะท้อนภาพการเติบโต ซึ่งเป็นข่าวดีที่ส่งผลโดยตรงกับกลุ่มแบงก์ เนื่องจากจะได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของสินเชื่อ ขณะเดียวกัน ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2564 ของกลุ่มแบงก์ที่ประกาศออกมาก็ดีกว่าคาดการณ์
นอกจากนี้ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หุ้นกลุ่มแบงก์น่าสนใจและได้รับแรงซื้อเข้ามาลงทุนค่อนข้างมาก เพราะทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นสะท้อนถึงส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) จะเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนภาพกำไรของกลุ่มแบงก์ที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ส่วนใหญ่ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ระดับ P/BV 0.6-0.7 เท่า แม้จะมีบางแบงก์ที่ซื้อขายบน P/BV เกิน 1 เท่า ซึ่งเป็นปัจจัยเฉพาะตัว เช่น TISCO ที่ได้รับความสนใจจากการเป็นแบงก์ขนาดเล็กที่โดดเด่น และ SCB ที่มีความโดดเด่นจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของกลุ่มแบงก์ยังจูงใจ อยู่ในช่วง 4-7% ต่อปี
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP