แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประชุมร่วมกันที่นครเจนีวาในวันศุกร์ (21 มกราคม) หวังคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนยูเครน ท่ามกลางความหวั่นเกรงของชาติตะวันตกว่ามอสโกอาจส่งกำลังทหารบุกยึดประเทศ
“นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ” บลินเคนกล่าวเปิดการประชุม ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า สหรัฐฯ และรัสเซีย “ไม่คาดหวังว่าจะแก้ไขข้อขัดแย้งของเราที่นี่ในวันนี้” แต่หวังที่จะพิสูจน์ว่าการทูตยังคงเป็นทางเลือกที่ใช้ได้จริงหรือไม่
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สถานการณ์บริเวณพรมแดนยูเครนยังคงตึงเครียด หลังจากที่รัสเซียสั่งสมกำลังทหาร 100,000 นายใกล้พรมแดนติดกับยูเครน แม้รัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีแผนที่จะรุกรานยูเครนก็ตาม
ในระหว่างการประชุม บลินเคนเตือนลาฟรอฟให้ระวังสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรร่วมกันตอบโต้อย่างรวดเร็วและรุนแรง หากรัสเซียบุกยูเครน
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อชาติตะวันตกหลายข้อ รวมถึงการขัดขวางไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ตลอดจนต้องการให้ NATO ยกเลิกการซ้อมรบและหยุดส่งอาวุธไปยังยุโรปตะวันออก ซึ่งรัสเซียมองว่าความเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียไม่ได้คาดหวังว่าในการประชุมวันศุกร์จะได้รับคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับข้อเรียกร้องที่เสนอไป แต่คาดว่าจะได้รับการตอบกลับในสัปดาห์หน้า
“ข้อเสนอของเราเป็นรูปธรรมอย่างยิ่ง และเรารอคำตอบที่เป็นรูปธรรมอย่างเท่าเทียมกัน” ลาฟรอฟกล่าวในระหว่างการประชุม
โดยก่อนการประชุมเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า บลินเคนจะพยายามเสนอให้ลาฟรอฟเป็น ‘ทางออกทางการทูต’ เพื่อบรรเทาความตึงเครียด ขณะที่อาจให้ความโปร่งใสแก่รัสเซียมากขึ้นเกี่ยวกับการซ้อมรบในภูมิภาค หรืออาจเสนอแนะให้มีการนำข้อจำกัดเกี่ยวกับขีปนาวุธในยุโรปกลับมาบังคับใช้ใหม่ โดยก่อนหน้านี้ข้อจำกัดเหล่านี้ได้ถูกระบุไว้ในสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง หรือ INF (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาในยุคสงครามเย็น แต่สหรัฐฯ ได้ถอนตัวออกไปเมื่อปี 2019 หลังจากกล่าวหารัสเซียว่าละเมิดข้อตกลง
ขณะที่รัสเซียยืนยันว่ายูเครนเป็นจุดสนใจหลัก โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมารัสเซียได้เปิดเผยแผนการซ้อมรบทางทะเลที่มีเรือรบเข้าร่วมมากกว่า 140 ลำ และเครื่องบินมากกว่า 60 ลำ ซึ่งถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพของประเทศ
ทั้งนี้บลินเคนเดินทางถึงเจนีวาหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่เคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน ซึ่งเขาเดินทางไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้หารือร่วมกับชาติพันธมิตรอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ในกรุงเบอร์ลินด้วย
ภาพ: Sergei Bobylev / TASS via Getty Images
อ้างอิง: