วันนี้ (16 มกราคม) ดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เนื่องในวันครูปีนี้ มีข่าวดีที่ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของการศึกษาไทย ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจการลงทะเบียนเรียนรายวิชาข้ามสถาบันระดับบัณฑิตศึกษาในสถาบันที่เป็นสมาชิกของที่ประชุมคณะผู้บริหารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐและมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ 25 สถาบันเข้าร่วม (ทคบร.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2565 เป็นการเชื่อมระบบคลังหน่วยกิตและการใช้ทรัพยากรร่วมกันมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยต่อไปนี้นักศึกษาจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และสามารถเข้าถึงความรู้ตามรายวิชาที่ตนสนใจ และได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายจากมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศที่ต่างกัน มหาวิทยาลัยแต่ละที่ก็ยังได้รับประโยชน์จากการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลและองค์ความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย เป็นการสนธิกำลังกันให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศในก้าวต่อไป
ดร.ณหทัย กล่าวว่าการลงนามดังกล่าวถือว่าเป็นเป็นเรื่องที่น่ายินดี และน่าชื่นชมที่ผู้บริหารของทุกสถาบันสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ และยังเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับกระบวนทัศน์การศึกษาของประเทศที่สอดคล้องกับข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าเราตั้งใจที่จะสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เกิดขึ้นกับคนไทยทุกคน ผ่าน ‘ธนาคารหน่วยกิตเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต’ (Academic Credit Bank for Lifelong Learning) ที่ได้ประกาศไว้ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564
ดร.ณหทัยกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณแทนครูและนักศึกษาทั่วประเทศที่กำลังจะก้าวข้ามไปสู่การเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด ซึ่งครูผู้สอนจะสามารถพัฒนาศักยภาพเพื่อนำไปสู่การพัฒนาเด็ก สามารถนำความรู้ที่ต่อยอดดังกล่าวไปใช้ในการปรับวิทยฐานะ โดยใช้ข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในธนาคารหน่วยกิตฯ ซึ่งไม่มีวันหมดอายุและถูกบันทึกด้วยวิธีที่จะไม่ไปเพิ่มภาระงานเอกสารให้กับครู นอกจากนี้ยังสามารถนำเอาความรู้หรือทักษะต่อยอดเหล่านี้ไปลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมได้อีกด้วย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่าระบบบันทึกการเรียนรู้ผ่านธนาคารหน่วยกิตฯ และการเข้าถึงแพลตฟอร์มเพื่อการเรียนรู้ฯ ระดับชาติ มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนเป็นครู เพื่อให้ครูสามารถเข้าถึงความรู้เพื่อพัฒนาตนเองในวิชาที่สอน หรือในวิชาที่เกี่ยวข้องได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อให้เท่าทันกับวิชาการความรู้ที่ทันสมัยและเชื่อมโยงบูรณาการ สนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ณหทัยยังกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยตั้งใจที่จะสนับสนุนเรื่องที่เป็นประโยชน์กับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม โดยการระดมความคิดเห็น ความรู้ งานวิจัย ของผู้เกี่ยวข้องมาพัฒนาให้เป็นนโยบายที่จะเป็นการสร้างอนาคตและความหวังให้การเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพของคนไทย ผ่านธนาคารหน่วยกิตฯ จากระดับอุดมศึกษาลงมาในระดับโรงเรียนในทุกสังกัด รวมทั้งอาชีวศึกษา โดยพรรคเพื่อไทยจะต้องผลักดันให้ ‘ธนาคารหน่วยกิตเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต’ (Academic Credit Bank for Lifelong Learning) ให้เป็นวาระของชาติอย่างเป็นทางการ และมีหน่วยงานที่รับผิดชอบที่สามารถเชื่อมการเรียนรู้ในทุกระดับและทุกรูปแบบเข้าด้วยกันได้ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการเรียนรู้ในเนื้อหาและทักษะที่หลากหลาย และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาของคนทุกวัย
“พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้ชื่อว่าทุ่มเทให้กับการสร้างอนาคตของชาติ อาชีพครูเป็นอาชีพที่เป็นหัวใจและเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอาชีพ ซึ่งต้องให้ความสำคัญและต้องทำให้ครูเข้าถึงการเรียนรู้เพื่อต่อยอดตนเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหรือเสียให้น้อยที่สุด” ดร.ณหทัยกล่าว