ปี 2022 การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นฟูเพราะวัคซีน คริปโตเข้ามามีบทบาท และทริปแบบ Once in a Lifetime จะได้รับความนิยม

การแพร่ระบาดของโควิดพลิกโฉมการใช้ชีวิตของคนทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เคยเฟื่องฟูถึงขีดสุดต้องมาถึงจุดหยุดชะงัก แม้บรรยากาศของปี 2021 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2020 แต่การท่องเที่ยวไทยยังคงอยู่ในภาวะประคับประคองตนไป แม้มีรายได้จากการเปิดประเทศมาหล่อเลี้ยงแต่ไม่สามารถพูดว่าฟื้นฟูได้อย่างเต็มปาก

ด้วยสถานการณ์ที่ยังทรงๆ เอาแน่นอนไม่ได้แบบนี้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่ยังหมายถึงจุดหมายปลายทางอื่นทั่วโลก เทรนด์การท่องเที่ยวในปี 2022 จะยังคงละม้ายคล้ายคลึงกับปี 2021 หลายส่วน การท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกและเนิบช้ายังคงเป็นเทรนด์หลัก กระแสการเที่ยวแบบ Workation ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม โรงแรมรีสอร์ตใหญ่ชูมาตรฐานความปลอดภัยและความ Privacy เป็นตัวนำ

ในปี 2022 เรายังไม่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างใจอยากและยังคงระแวดระวังต่อเชื้อโรค แต่โดยรวมแล้วโลกการท่องเที่ยวจะยิ้มได้มากกว่าปีไหนๆ และนี่คือโฉมหน้าของวงการท่องเที่ยวปี 2022 ที่ THE STANDARD POP สรุปมาให้คุณ

การท่องเที่ยวแบบเนิบช้ายังคงอยู่ และจะใช้เวลานานขึ้นกลายเป็นฝังตัว

หลังจากการระบาดของโควิด กระแสการเที่ยวแบบเนิบช้ากลายเป็นเทรนด์เที่ยวกระแสหลัก และยิ่งบวกกับเทรนด์รักษ์โลกที่ Greta Thunberg ปูทางเอาไว้ ยิ่งทำให้การเที่ยวลักษณะนี้มาแรง จากเครื่องบินสู่รถยนต์ จักรยาน และโรดทริป หลายคนเลือกแพ็กกระเป๋า เตรียมอุปกรณ์แคมปิ้ง ออกไปตั้งแคมป์ตามป่าเขา จักรยานภูเขามากมายถูกซื้อ ชวนแก๊งแล้วออกไปปั่น ตราบใดที่โควิดยังอยู่ ผู้เขียนเชื่อว่าการเที่ยวแบบเนิบช้ายังคงอยู่

ทว่าในปี 2022 สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ความเนินช้าของนักท่องเที่ยวจะไม่ใช่แค่วิธีการเที่ยวเท่านั้น แต่ยังคงรวมถึงระยะเวลาที่นานขึ้นด้วย นักเดินทางจะเริ่มดื่มด่ำกับจุดหมายปลายทางมาก เน้นละเลียด ซึมซับบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวที่ไป เนื่องจากการใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad ทำให้เราทำงานที่ไหนก็ได้ คนรุ่นใหม่จึงหั่นเวลาเหล่านั้นมาเพิ่มกับการเดินทาง

การท่องเที่ยวเสมือนจริง ที่ไม่ใช่แค่ VR แต่เป็น Metaverse

ในปีที่แล้วการท่องเที่ยวเสมือนจริงกลายเป็นสิ่งยาใจสำหรับนักเดินทางในช่วงล็อกดาวน์ ทัวร์เสมือนจริงจะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีกจนกลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวกระแสหลัก ทุกหมุดหมายปลายทางต้องมี รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ล้วนจัดเตรียมอุปกรณ์ VR ไว้ให้ลูกค้า แน่นอนว่ารวมไปถึงบริษัททัวร์ ระบบขนส่งมวลชน และอื่นๆ ด้วย แต่ในปี 2022 การเที่ยวผ่านเทคโนโลยี VR ยังคงอยู่ แต่การเที่ยวเสมือนจริงจะถูกเปลี่ยนไปในโลก Metaverse ที่มีทั้งเกม แกลเลอรี รวมถึงอีเวนต์ต่างๆ ให้คนสามารถทำกิจกรรมร่วมกันหรือแฮงเอาต์จากจุดไหนก็ได้

คริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชน เข้ามามีบทบาทในโลกการเดินทาง

กระแสโลกคริปโตเคอร์เรนซีมาแรงตั้งแต่ปลายปี 2020 และได้รับการยอมรับมากขึ้นแบบก้าวกระโดด เมื่อปีที่แล้วหลายโรงแรม รีสอร์ตทั่วโลกต่างยอมรับการชำระเงินแบบดิจิทัล รวมถึงตัวกลางอื่นๆ อย่าง Expedia และ Booking.com แน่นอนว่าในปี 2022 การชำระเงินดิจิทัลจะได้รับความนิยมและการยอมรับในวงกว้าง แต่นั่นเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ก้าวต่อไปในปีนี้คือการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Metaverse เข้ามามีส่วนรวมในการท่องเที่ยวเดินทาง ไม่แน่ว่าภายในปีนี้เราอาจเห็นพาสปอร์ตในรูปแบบของ NFT ถูกใช้งานในโลกจริง แม้จะมีเคสของเกาะบาร์เบโดสที่เริ่มทำ eVisa ผ่านสถานทูตในโลกเสมือนแล้วก็เถอะ

ความสะอาด การจองแบบยืดหยุ่น และเอกสารการแพทย์ กลายเป็นสิ่งพื้นฐานของโลกเดินทาง

อันที่จริงความสะอาดควรกลายเป็นพื้นฐานของที่พักและจุดหมายปลายทางทั่วโลกอยู่แล้ว แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของโควิดทำให้นักท่องเที่ยวคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นหลัก ชนิดที่ว่าต้องอยู่ในมาตรฐานสูงและผ่านการเช็กว่าถูกฆ่าเชื้อแบบดีปคลีนเท่านั้น

ไม่ใช่แค่ความสะอาด แต่เรื่องเอกสารการแพทย์และการจองแบบยืดหยุ่นเช่นกัน ก่อนหน้าการระบาดโควิด สามสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนมักมองข้าม แต่หลังจากปี 2022 เป็นต้นไป ความสะอาด การจองแบบยืนหยุ่น และเอกสารการแพทย์จะกลายเป็นเงื่อนไขพื้นฐานของโลกการท่องเที่ยว แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะจากหายไปแล้วก็ตาม

ทริปแบบ Once in a Lifetime จะได้รับความนิยม แม้ตามด้วยเงื่อนไขเต็มกระบุง

ในครึ่งปีหลัง 2022 ที่สถานการณ์น่าจะคลี่คลายมากขึ้น เนื่องจากมีการเปิดพรมแดนระหว่างกันทั้งโลกแม้ว่าโควิดยังคงระบาดก็ตาม คนจะเริ่มออกเดินทางต่างแดนเพื่อแสวงหาประสบการณ์การเดินทางที่ตนขาดหาย เมื่อไปได้น้อยจึงเลือกทริปที่ไปแล้วตนเองอิ่มเอมใจที่สุด ทริปแบบ ‘Once in a Lifetime’ หรือ ‘ครั้งหนึ่งในชีวิต’ จึงกลายมาเป็นตัวเลือกอันดับต้น เพราะคุ้มค่าต่อค่าใช้จ่าย การเดินทาง รวมถึงเอกสารและการกักตัวต่างๆ หลังกลับถึงไทยแล้วด้วย

อ้างอิง: